ปล่อยให้ลูกล้มเหลวซะบ้าง !

คนเป็นพ่อแม่ล้วนปรารถนาอยากให้ลูกเป็นเด็กเก่ง ดี มีความสุข และประสบความสำเร็จด้วยกันทั้งนั้น เวลาเห็นลูกทุกข์ใจ มีปัญหา ประสบอุปสรรค จนกระทั่งล้มเหลวบ้าง ดูเหมือนคนเป็นพ่อแม่ผู้ปกครองจะทุกข์ใจมากกว่าคนเป็นลูกซะอีก 

ความจริงแล้ว กว่าที่เด็กคนหนึ่งจะเติบโตขึ้นไปเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพ ประสบความสำเร็จ ล้วนแล้วต้องผ่านอุปสรรคขวากหนามด้วยกันทั้งนั้น จะมากจะน้อยก็อยู่ที่การวางเป้าหมายในชีวิต การกล้าที่จะเผชิญอุปสรรค และพร้อมที่จะล้ม สำคัญอยู่ที่ว่าเมื่อล้มแล้วพร้อมที่จะลุกหรือไม่ และลุกอย่างไร ?

Dr. Stephanie O’Leary นักจิตวิทยาผู้เชี่ยวชาญด้านประสาทวิทยาและผู้เขียนหนังสือ “Parenting in the Real World: The Rules Have Changed” กล่าวว่า ..."ความล้มเหลวเป็นผลดีสำหรับเด็กในหลายระดับ เพราะการประสบกับความล้มเหลวช่วยให้ลูกของคุณเรียนรู้ที่จะรับมือกับมัน ซึ่งเป็นทักษะที่จำเป็นอย่างยิ่งในโลกแห่งความเป็นจริง นอกจากนี้ยังมอบประสบการณ์ชีวิตที่จำเป็นให้กับเขาหรือเธอ ในการสัมพันธ์กับคนรอบข้างอย่างจริงใจ การถูกท้าทายยังปลูกฝังความจำเป็นในการทำงานหนักและความพยายามอย่างต่อเนื่อง เมื่อเวลาผ่านไปเด็ก ๆ ที่ประสบกับความพ่ายแพ้จะสร้างความยืดหยุ่นและเต็มใจที่จะทำภารกิจและกิจกรรมที่ยากลำบากมากขึ้น เพราะพวกเขาไม่กลัวที่จะล้มเหลว"...

เจ.เค. โรว์ลิ่ง (J.K. Rowling) ผู้เขียนหนังสือที่โด่งดังและขายดีอย่าง แฮรี่ พอตเตอร์ ก็เคยผ่านชีวิตล้มเหลวอย่างหนักหน่วงมาเช่นกัน ...“ฉันล้มเหลวอย่างใหญ่หลวง ทั้งชีวิตการแต่งงานที่แสนสั้น แล้วก็ไม่มีงานทำ ต้องเลี้ยงลูกคนเดียว ถึงกับแย่ที่สุดเท่าที่คนอังกฤษยุคใหม่จะเป็นได้ คือแทบจะเป็นคนไร้บ้าน จนสิ่งที่พ่อแม่กังวลกับฉัน และฉันก็กังวลเช่นกัน ก็ได้มาถึง มันเป็นความล้มเหลวครั้งใหญ่”...

โรว์ลิ่งมักมองย้อนกลับไปยังเส้นทางชีวิตเบื้องล่างที่เต็มไปด้วยขวากหนามและความท้าทายซึ่งเคยทำให้ชีวิตของเธอล้มเหลวไม่เป็นท่า ความล้มเหลวทำให้โรว์ลิ่งมองชีวิตใหม่ หยุดพยายามผิดที่ผิดทาง แล้วเริ่มต้นมุ่งมั่นและทุ่มเททำสิ่งที่มีความหมายจริง ๆ กับชีวิต ในตอนนั้น 

ในพิธีสำเร็จการศึกษาประจำปี 2008 ของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด โรว์ลิ่งได้กล่าวสุนทรพจน์ถึงชีวิตที่ล้มเหลวเพื่อเป็นข้อคิดแก่บัณฑิตว่า ..."เป็นไปไม่ได้ที่จะมีชีวิตอยู่โดยไม่เคยล้มเหลวเลย เว้นแต่ว่าจะใช้ชีวิตอย่างระวังมาก ๆ มากเสียจนไม่อาจเรียกได้ว่าเป็นการใช้ชีวิต ซึ่งก็เท่ากับว่าชีวิตได้ล้มเหลวไปแล้ว แต่ความล้มเหลวจะเป็นฐานรากที่แข็งแกร่ง ทำให้สามารถจัดการชีวิตใหม่ ทบทวนตัวเอง หมั่นเรียนรู้ ที่สำคัญคือ รู้จักถ่อมตนกับความผิดพลาดที่เกิดขึ้นได้ ทั้งหมดนี้จะนำไปสู่การยอมรับความจริง ซึ่งเป็นโอกาสเดียวที่ทำให้ชีวิตรอดพ้นจากความไม่แน่นอนต่าง ๆ ที่เกิดจากความล้มเหลว"... นับเป็นข้อดีของความล้มเหลว

และนั่นคือเหตุผลว่า พ่อแม่จึงควรปล่อยให้ลูกล้มเหลวซะบ้าง เพราะการล้มเหลวในวันนี้ ช่วยเพิ่มทักษะชีวิตให้เขาได้มากมาย เพียงแค่เขาพร้อมจะลุกและเผชิญอุปสรรค !

✚ รู้จักตัวเอง ✚

ความล้มเหลวทำให้รู้จักตัวเองได้เร็วขึ้น เพียงแค่เราต้องมองลูกด้วยสายตาของความเป็นจริงไม่ใช่สายตาที่อคติหรือลำเอียง แม้ผลลัพธ์จะนำมาซึ่งความผิดหวังล้มเหลว แต่มั่นใจได้เลยว่าจะทำให้ลูกรู้จักตัวเองมากขึ้น และพ่อแม่ก็ควรทำหน้าที่อยู่เคียงข้าง ให้กำลังใจ และชี้ให้ลูกเห็นว่าแม้ความผิดพลาดจะทำให้ผิดหวังท้อแท้ บั่นทอนกำลังใจ แต่สิ่งที่เราได้รับคือมองเห็นปัญหาที่แท้จริง เข้าใจสาเหตุที่ทำให้เราล้มเหลว เพื่อนำมาแก้ไขและพัฒนา ปรับปรุง หรือเปลี่ยนแปลงตัวเอง

✚ มั่นใจและแกร่งขึ้น ✚

ถ้าคนเราได้ผ่านความผิดหวัง ล้มเหลวมาบ้าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็ก ๆ กระทั่งเรื่องใหญ่ ก็จะช่วยเป็นภูมิคุ้มกันให้จิตใจของเราได้เป็นอย่างดี อย่างน้อยก็ได้เรียนรู้ ที่สำคัญจะทำให้มีจิตใจที่แข็งแกร่งและมั่นใจขึ้นสามารถที่จะรับมือกับเรื่องเลวร้ายที่อาจจะเกิดขึ้นอีกได้ดีขึ้น 

✚ ใครคือคนสำคัญ ✚

เมื่อเราท้อแท้ ผิดหวัง ทุกข์ใจ ลูกจะได้เรียนรู้และมองเห็นคนที่พร้อมอยู่เคียงข้างเขาเสมอ คนที่พร้อมจะให้คำแนะนำ ปลอบใจ ให้กำลังใจ หรือเรียนรู้จักคนที่พร้อมจะซ้ำเติมความผิดพลาด เรียกว่าเป็นการเรียนรู้จักผู้คนที่หลากหลาย เป็นบทเรียนชีวิตที่ล้ำค่า และทำให้เขาเติบใหญ่ขึ้น

✚ เข้าใกล้ความสำเร็จ ✚

เมื่อลูกอาจประสบความล้มเหลว ขอให้รู้ไว้ว่านั่นคือจุดที่ทำให้ลูกของคุณเข้าใกล้ความสำเร็จไปอีกขั้นหนึ่ง ขอเพียงให้ได้เรียนรู้และเก็บรับเอาความล้มเหลวนั้นมาเป็นบทเรียน เรียนรู้ว่าผิดพลาดเพราะอะไร ควรจะต้องปรับอย่างไร และครั้งต่อไป เขาจะเรียนรู้ว่าจะทำอย่างไร ควรหลีกเลี่ยงอะไร และนั่นคือสัญญาณว่าเขาเข้าใกล้ความสำเร็จมากขึ้นเช่นกัน

เชื่อเถอะค่ะ ไม่มีใครที่ประสบความสำเร็จในชีวิตด้วยตัวเองแล้วไม่เคยล้มเหลว