232
ลูกไปต่อ เพราะพ่อแม่ไว้ใจ

ลูกไปต่อ เพราะพ่อแม่ไว้ใจ

โพสต์เมื่อวันที่ : August 12, 2020

เมื่อหลายสัปดาห์ก่อน ผมได้มีโอกาสอ่านบทความเกี่ยวกับการ “ไว้ใจลูก” การให้ลูกได้ลองลงมือทำสิ่งต่าง ๆ ด้วยตนเอง จะส่งผลให้ลูกมีความมั่นใจมากขึ้น และมีพัฒนาการดีขึ้น

 

พออ่านจบ ก็เหมือนพบกับทางสว่างทีเดียว ! เพราะมันช่างตรงกับสิ่งที่ผมเพิ่งค้นพบด้วยความบังเอิญ จากการปล่อยให้เจ้าลูกชายได้ลองทำอะไรด้วยตัวเองครับ

เรื่องมีอยู่ว่า... วันหนึงขณะที่แม่เคทกำลังให้นมน้องคนเล็กอยู่ ส่วนผมกำลังอาบน้ำ เจ้าลูกชายเกิดปวดฉี่ขึ้นมาแบบเขื่อนใกล้แตกเต็มที ก็คงจะเพราะกำลังเล่นของเล่นแบบติดพัน เลยไม่อยากจะลุกไปทำธุระให้เสียจังหวะ พอทนไม่ไหวเข้าจริง ๆ ก็วิ่งมาบอกแม่ซึ่งกำลังให้นมน้องอยู่ แม่จึงไม่สามารถไปช่วยจับได้ เจ้าลูกชายจึงตัดสินใจวิ่งไปจัดการทำธุระด้วยตัวเอง

 

ทุกขั้นตอนตั้งแต่ยกฝารองนั่งขึ้น ทำธุระเสร็จ กดชักโครก ล้างมือ เข็ดมือเสร็จสรรพเรียบร้อย เอาเข้าจริงก็ทำเองได้หมด ผมอาบน้ำเสร็จออกมายังรู้สึกแปลกใจ แล้ว..."ที่ผ่านมานั้นมันคืออะไร ?"... หรือเป็นตัวผมเองที่ไม่เชื่อใจ เลยไม่ลองปล่อยให้ลูกได้ลองทำด้วยตัวเองดูกันแน่

อีกเหตุการณ์ คือ ช่วงระหว่างทำกิจกรรม Playgroup ที่โรงเรียน ซึ่งผมกับแม่เคทจะต้องปล่อยให้เจ้าลูกชายอยู่คนเดียว เมื่อถึงเวลาทานข้าวเที่ยง เจ้าลูกชายก็จัดแจงนั่งโต๊ะเสร็จสรรพ แถมซัดอาหารซดน้ำซุปเกลี้ยงชาม ! ซึ่งต่างจากเวลาอยู่บ้าน ที่ทั้งผมกับแม่เคทจะต้องคอยพูดคอยเตือนให้ตั้งใจกินข้าวจนเมื่อปาก ยังครับ...ยังไม่หมดแค่นั้นครับ เจ้าลูกชายกินเสร็จแล้วยังล้างจานเองอีกด้วย ! โอ้ว...ไม่อยากจะเชื่อเลย

 

ก็ตลอดเวลาที่อยู่บ้าน ด้วยความที่กลัวจานจะแตก ผมเลยไม่ได้ปล่อยให้ล้างจานสักเท่าไหร่ แต่ที่โรงเรียนพอคุณครูวางใจ เจ้าลูกชายกลับทำได้หน้าตาเฉยเสียอย่างนั้น รู้แบบนี้แล้ว ผมนี่ตาวาว ไอเดียผุดขึ้นมาทันที !

 

ผมกำลังคิดว่าจะลองให้เจ้าลูกชายไปช่วยพี่แม่บ้านกวาดบ้านถูพื้นดูเสียหน่อย เห็นว่าอยากจะลองมาหลายครั้งแล้ว แต่ผมกลัวว่าจะเป็นการเพื่มงานให้แม่บ้านเค้า เลยไม่ได้ปล่อยให้ไปลองทำดู แต่ .. อย่างที่ตำราเขียนไว้ชัดเจนครับว่า การให้ลูกช่วยทำงานบ้าน สิ่งที่เราจะได้แน่นอนนั้น ไม่ใช่ความสะอาด แต่เป็นการฝึกวินัย และ EF อย่างดี ถ้าเด็กเริ่มดูแลพื้นที่รอบ ๆ ตัวเขาเองได้ อีกหน่อยก็จะสามารถดูแลคนอื่นและสังคมได้เช่นกัน

 

ไหน ๆ ก็เชียร์ให้คุณพ่อคุณแม่ไว้ใจ ปล่อยวางให้มากขึ้นแล้ว ก็ขอเขียนรวมไปถึงการห้ามลูกเล่นนั่นเล่นนี่ด้วยเลย อาจจะด้วยเหตุผลที่ว่าดูเลอะเทอะ หรือดูทะโมนไปสักหน่อย แต่ถ้าวิเคราะห์แล้วไม่ได้เสี่ยงต่ออันตรายอะไรมากนัก ห้ามให้น้อยลงเสียหน่อยน่าจะส่งผลดีมากกว่า เพราะอย่าลืมว่า เด็ก ๆ เค้าได้เรียนรู้และมีประสบการณ์ผ่านการลองเล่นลองทำครับ

 

เอาล่ะ...ต่อจากนี้ ถ้าบ้านจะเป็นระเบียบแบบแปลก ๆ สะอาดแบบไม่หมดจด หรือเนื้อตัวลูกจะมีรอยขีดข่วน แขนขาฟกช้ำดำเขียวบ้าง ก็ขอให้คิดไว้ครับว่า 'แลกกับพัฒนาการและ EF ที่ดีของลูก' อย่างไรก็คุ้มครับ