557
กระจกวิเศษของพ่อแม่

กระจกวิเศษของพ่อแม่

โพสต์เมื่อวันที่ : September 2, 2020

ไหน ๆ ใครอยากมีกระจกวิเศษ เหมือนในนิทานเรื่องสโนวไวท์กับคนแคระทั้งเจ็ดบ้างยกมือขึ้น .. ผมกำลังจะบอกว่า จริง ๆ แล้ว คุณพ่อคุณแม่ก็มีกระจกวิเศษประจำครอบครัวอยู่แล้วครับ ตัวเล็ก ๆ วิ่งไปวิ่งมาอยู่รอบ ๆ ตัวคุณพ่อคุณแม่นั่นแหละ

 

ใช่แล้วครับ ผมหมายถึงลูก ๆ ของเราเองนี่เอง ที่เปรียบเหมือนกระจกวิเศษพูดได้ คอยสะท้อนตัวเราเองให้เห็นชัด ๆ ว่าเป็นอย่างไร ?

 

...ถ้าเราอารมณ์ร้อน โมโหง่าย ลูกก็จะเป็นเด็กขี้หงุดหงิด

...ถ้าเราเป็นคนไม่เรียบร้อย เก็บของไม่เป็นที่เป็นทาง ลูก ๆ ก็จะไม่มีระเบียบ

...ถ้าเราไม่ใส่ใจผู้คนรอบข้าง ไม่มีน้ำใจให้กับเพื่อน ๆ ลูกก็คงจะมีทัศนคติในการดำเนินชีวิตเช่นเดียวกับเรา

...ถ้าเราชอบใช้ความรุนแรง ขาดคุณธรรม แม้ทุจริตเพียงเล็ก ๆ น้อย ๆ ลูกก็มีแนวโน้มที่จะเห็นว่าเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องธรรมดาที่สามารถทำได้เช่นกัน

 

ลูกจะเห็นพ่อแม่เป็นแบบอย่างเสมอ

พ่อแม่เป็นยิ่งกว่าครูคนแรก เรียกได้ว่าเป็นแม่พิมพ์ให้กับลูกเลยก็ว่าได้ ถึงแม้ว่าเด็กแต่ละคนจะมีพื้นนิสัยที่ติดตัวมาแตกต่างกัน แต่พฤติกรรมของคุณพ่อคุณแม่ที่ทำให้เห็นอยู่อย่างสม่ำเสมอนั้นมีน้ำหนักมากกว่า ซึ่งเราสามารถสังเกตได้จากพฤติกรรมต่าง ๆ ของลูก ถ้าหากเริ่มเห็นว่ามีทีท่าไม่น่าไว้วางใจ เช่น เริ่มพูดโกหก ชอบความรุนแรง ขว้างปาข้าวของ มีพฤติกรรมชอบต่อต้าน ไปจนถึงไม่มีความมั่นใจในตัวเอง เหล่านี้ถือว่าเป็นสัญญาณเตือน คุณพ่อคุณแม่ควรเริ่มหันกลับมาวิเคราะห์ดูว่าเกิดอะไรขึ้นในครอบครัว หรือลูกทำตามพฤติกรรมของเราหรือคนใกล้ตัวคนไหนหรือเปล่า เพื่อจัดการรับมือกันเสียแต่เนิ่น ๆ ครับ

 

สมัยหนุ่ม ๆ การมีแฟนมีคนรักทำให้ผมอยากเป็นคนที่ดีขึ้นเพื่อทำให้คนที่เรารักภูมิใจ พอมีลูก บอกเลยว่ายิ่งทำให้เราอยากเป็นคนที่ดีขึ้นไปอีก ไม่ใช่เพียงแค่อยากให้ลูกภูมิใจในตัวพ่อของเขา แต่ผมอยากให้ลูกเป็นคนที่มีคุณภาพไม่ว่าจะเติบโตไปอยู่ ณ ตำแหน่งใดก็ตามในสังคม เพื่อให้ลูกเป็นที่รักและชื่นชมของผู้คนรอบข้าง

 

..."ดังนั้นการที่พ่อแม่มีโอกาสได้เห็นภาพสะท้อนพฤติกรรมของตัวเองผ่านกระจกวิเศษแล้ว ก็อย่าลืมใส่ใจที่จะพัฒนาเปลี่ยนแปลงตัวเองด้วยไม่ใช่เพื่อตัวเราเอง .. แต่เพื่อ “ลูกของเรา” นี่แหละครับ"...