162
แค่ฟังไม่ต้องรีบสอน

แค่ฟังไม่ต้องรีบสอน

โพสต์เมื่อวันที่ : January 9, 2021

คนไข้วัยรุ่นหลายคนของหมอมักมีคำตอบเดียวกัน เมื่อถามว่าเวลามีปัญหาปรึกษาใครในชีวิต ..."เพื่อน"... และมักจะได้คำตอบคล้าย ๆ กัน เมื่อถามว่าทำไมไม่ปรึกษาพ่อแม่

 

..."รู้แล้วเยอะ"...

..."ชอบบ่น"...

..."เอาแต่สอน แต่ไม่เคยฟัง"...

...“บอกไปก็ไม่ช่วยอะไร”...

 

หมอคิดว่าปัญหาหลักใหญ่ไม่ว่าลูกวัยไหน คือการที่พ่อแม่ชอบเข้าใจว่าเวลาที่ลูกมีปัญหาแล้วมาปรึกษา หน้าที่ของพ่อแม่คือการ "ช่วยแก้ปัญหา" และ "คอยสั่งสอน" ทั้ง ๆ ที่จริง ๆ หลายครั้ง สิ่งที่ลูกต้องการคือใครสักคนที่จะ "รับฟัง" มันอย่างเข้าใจ และในฐานะพ่อแม่ เราอาจควรมีหน้าที่แค่ "ช่วยให้คิด" ไม่ใช่คอยคิดให้

 

ลูก : ..."วันนี้เซ็งมากเลยโดนเพื่อนมันแกล้งอีกละ"...
แม่ : ..."แล้วเราไปแกล้งอะไรเค้าก่อนรึเปล่าเนี่ย"...

 

ลูก : ..."เพื่อนหนูที่โรงเรียนมันมีแฟนด้วยนะ"...
แม่ : ..."อย่าริเชียวนะ อายุแค่นี้"...

 

ลูก : ..."โคตรเซ็งเลยสอบตกอีกละ"...
แม่ : ..."สมน้ำหน้า พ่อบอกแล้วใช่มั้ยว่าอย่าเล่นเกมเยอะ"...

คงจะดีถ้าประโยคเหล่านี้จะเปลี่ยนเป็น...

 

ลูก : ..."วันนี้เซ็งมากเลยโดนเพื่อนมันแกล้งอีกละ"...
แม่ : ..."เกิดอะไรขึ้นอะลูก เล่าให้แม่ฟังได้มั้ย แล้วหนูเจ็บตรงไหนรึเปล่า"... ✔︎

 

ลูก : ..."เพื่อนหนูที่โรงเรียนมันมีแฟนด้วยนะ"...
แม่ : ..."อืม เหรอลูก แล้วหนูรู้สึกยังไง"... ✔︎

 

ลูก : ..."โคตรเซ็งเลยสอบตกอีกละ"...
แม่ : ..."แม่เข้าใจเลยที่ลูกรู้สึกเซ็ง มันน่าเซ็งจริง ๆ นะ”...“แล้วลูกคิดว่ามันเกิดจากอะไร"... ✔︎

หมอชอบบอกพ่อแม่ว่าเวลาลูกมาปรึกษาอะไร ให้ฝึกตอบสนอง 3 ประโยคง่าย ๆ

..."แม่เข้าใจเลย"... (ถ้ารู้สึกเข้าใจจริง ๆ)

..."แล้วลูกคิดว่าจะแก้ปัญหานี้ยังไงดี"...

..."มีอะไรอยากให้แม่ช่วยบอกแม่ได้นะ"...

 

ประโยค ที่จะช่วยให้ลูกรู้สึกมีคนเข้าใจและช่วยให้พื้นที่เติบโต "รักลูก" ฝึกเป็นผู้ฟังที่ดี เพื่อให้ลูกรู้ว่าเค้ามีใครสักคน ที่พร้อมเข้าใจในตัวตนของเค้าจริง ๆ กันนะคะ