259
การล้อแกล้งกันมันไม่ใช่เรื่องธรรมดา

การล้อแกล้งกันมันไม่ใช่เรื่องธรรมดา

โพสต์เมื่อวันที่ : December 15, 2021

ปัญหา "การล้อ แกล้ง รังแก" กำลังเป็นปัญหาใหญ่ในสังคมเด็ก ๆ และวัยรุ่น ทั้งนอกและในโรงเรียน

 

ปัญหาที่กัดกร่อนความเป็นมนุษย์ของเด็กหลายคน จนทำให้โรงเรียนเป็นที่ที่ไปแล้วคล้ายตกนรก จนเด็กหลายคนปฏิเสธการไปโรงเรียน การล้อ แกล้ง รังแก มีตั้งแต่การทำร้ายกันทางร่างกาย ใช้คำพูดแกล้ง แหย่ ว่า ตำหนิ นินทา ให้หงุดหงิดใจ การทำสงครามจิตวิทยา ไปจนถึงการทำร้ายกันใน "โลกออนไลน์" ทำไมเด็ก ๆ ต้องล้อคนอื่น เด็กหลายคนอยู่กับการถูกล้อ ถูกแหย่ ถูกแกล้ง ตลอดเวลาเวลาอยู่กับ "คนในครอบครัว"

..."แก้มยุ้ยยจังเลย จับหน่อย ๆ ๆ ๆ"...
..."ตุ๊กตาอันนี้ของน้าต่างหาก"...
..."เดี๋ยวจับไว้อยู่นี่เลย ไม่ให้กลับไปกับแม่แล้ว"...

 

หลายครั้งที่ผู้ใหญ่ เห็นความหงุดหงิด รำคาญใจ โมโห โวยวาย กลายเป็น "ความสนุก" ทุกครั้งที่จะเข้าหา ต้องเข้ามาแบบ "แหย่ ๆ กัน" เด็กหลายคนก็ซึมซับนิสัยแบบนั้นมาใช้ อยู่โรงเรียนก็แกล้งเพื่อน แหย่เพื่อน เห็นความรำคาญใจของใคร ๆ เป็นความสนุกสนานของตัวเอง

☞ เด็กบางคนถูกกดให้หงอเวลาอยู่บ้าน จึงอยากเติมเต็มตัวตนโดยการแสดงความกร่างเมื่ออยู่กับผู้อื่น

☞ เด็กบางคนไม่เคยถูกสอนให้เห็นใจใคร และหลายคนก็โตมาแบบ "ไม่เคยได้รับ"

☞ เด็กหลายคนถูกใช้ความรุนแรง ทั้งคำพูด การกระทำ การลงไม้ลงมือ จึงชาชินว่าความรุนแรงมันเป็นเรื่องธรรมดาของชีวิต

 

 

☞ เด็กหลายคนไม่รู้สึกดีกับตัวเอง จึงต้องมองหาคนที่ด้อยกว่า เพื่อมาเติมเต็มความรู้สึกขาด

☞ เด็กบางคนควบคุมตัวเองไม่ได้ จากปัญหาส่วนบุคคล เช่น สมาธิสั้น บกพร่องทางสังคม ปัญหาการเรียนรู้

☞ เด็กหลายคนต้องปรับตัวเอาตัวรอด หงอไปจะกลายเป็นโดนล้อ จึงต้องกลายร่างมาเป็นผู้แกล้ง เพื่อความอยู่รอด 

 

ผลจากการไม่ได้แก้ปัญหาจริงจังของครูและผู้ใหญ่ที่ดูแล พ่อแม่ ผู้ใหญ่ และครูหลายคนมองการล้อ แกล้ง รังแก เป็นเรื่องธรรมดา 

..."เพื่อนเค้าก็แค่แหย่เล่น"...
..."เล่นกันสนุก ๆ จะโวยวายทำไม"...
..."เด็ก ๆ เล่นกันมันก็ต้องมีกันบ้างเป็นธรรมดา"...

 

ทำให้ปัญหานี้ไม่ได้รับการแก้ไข และยิ่งฝังรากลึกไปจนนำมาซึ่งปัญหาต่าง ๆ แต่ที่สำคัญที่สุด "การล้อ" เกิดจากการไม่เข้าใจ "ความแตกต่างหลากหลายของมนุษย์" ร่วมกับการชินชากับ การตีตราผู้อื่น ซึ่งหลายครั้งเริ่มมาจาก "คนในบ้าน" "ไอ้เตี้ย" "ไอ้ลูกหมู" "กินเยอะ เดี๋ยวก็เป็นหมู" "เดินตูดบิดอย่างนี้ อยากเป็นแต๋วเหรอ" "เป็นง่อยหรอ ไม่ช่วยกันทำงานเลย" ฯลฯ 

ช่วยเด็กที่ถูกล้อแกล้งรังแกได้อย่างไร ?

ฟังลูกอย่างตั้งใจ ไม่ตัดสิน แสดงการยืนยัน ว่าการล้อ แกล้ง รังแก เป็นสิ่งที่ไม่ควรยอมรับได้ หรือปล่อยให้มันเป็นเรื่องธรรมดา ประเมินลูก เด็กที่ตกเป็นเป้าหลายครั้ง เป็นเด็กหงอ ๆ ไม่มั่นใจตัวเอง เป็นเด็กไม่มีเพื่อน หรือเป็นเด็กที่แหย่แล้วขึ้นง่าย

ซึ่งสิ่งเหล่านี้ ถ้าลูกมีปัญหา การรู้ที่มาก็จะช่วยลูกได้มากขึ้น สร้างทักษะการจัดการปัญหาให้ลูกมีทางเลือกที่หลากหลาย ตั้งแต่ทำเป็นไม่สนใจ เดินหนี บอกเพื่อนไปว่าไม่ชอบ หาเพื่อนช่วย ไปบอกครู บอกพ่อแม่ให้เข้าไปช่วยเหลือ ฯลฯ ในกรณีที่ไม่หนักหนา อาจจะให้ลูกไปทดลอง แล้วกลับมาเล่า ว่าแต่ละวิธีได้ผลอย่างไร และบอกลูกว่าพ่อแม่พร้อมช่วยลูกอยู่เสมอ ถ้าวิธีเหล่านี้เป็นวิธีที่ไม่ได้ผล คุยกับลูกถึงที่มา ...“ลูกลองคิดสิว่า เพื่อนเค้าชอบมาแหย่ลูกเพราะอะไร”...

 

 

☞ เด็กบางคนก็สนุก เวลาได้แหย่คนอื่น ดังนั้นถ้าเราโกรธ โมโห ว่ากลับ เค้าก็จะยิ่งสนุก และยิ่งมาแกล้งใหญ่ เราเฉย ๆ ไป เพื่อนก็อาจจะไม่สนุก 

☞ เด็กบางคนอยากเล่นกับคนอื่น แต่ไม่รู้จะเล่นยังไง ก็เลยใช้วิธีเข้าไปแกล้ง แหย่ 

☞ เด็กบางคนมีปัญหาในการควบคุมตัวเอง ซึ่งเพื่อนก็ไม่ได้ตั้งใจที่จะคุมตัวเองไม่ได้ หลายคนก็ดีขึ้นเมื่อโตขึ้น หลายคนก็ต้องให้ผู้ใหญ่ช่วย 

☞ การคุยถึงที่มาเพื่อสร้างความเข้าใจ ทำให้ลูกไม่ปรุงแต่งใจให้โมโหไปมากขึ้น 

การล้อ แกล้ง รังแก ไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ อย่าทำให้ลูกเติบโตมา ด้วยบรรยากาศรอบตัวว่านี่เป็น "เรื่องธรรมดา" ของชีวิต สอนลูกเสมอ ที่จะทำให้ลูกเติบโตไปแบบไม่รังแกคนอื่น รับฟังและช่วยลูกเสมอ เมื่อลูกเป็นเหยื่อของความรุนแรง เพราะการล้อแกล้งกันมันไม่ใช่เรื่องธรรมดา