2806
อย่าลุยสอนตอน “ลูกอาละวาด” คุณจะละเลยความรู้สึกลูก

อย่าลุยสอนตอน “ลูกอาละวาด” คุณจะละเลยความรู้สึกลูก

โพสต์เมื่อวันที่ : June 13, 2022

เวลาที่พ่อแม่สั่งสอนลูก ขอให้ตระหนักว่า ความรู้สึกของลูกนั้นสำคัญ(เสมอ) แม้ว่าลูกจะร้องไห้เอาแต่ใจ หรือโกรธปึงปังไม่พอใจที่ให้ปิดการ์ตูน อย่าดุด่า สั่งให้เงียบตอนลูกอาละวาด เพราะนั่นจะทำให้เด็กรู้สึกว่าพ่อแม่ไม่สนใจอารมณ์ความรู้สึกของเขา

 

การที่ลูกไม่เชื่อฟังไม่ได้หมายความว่า อารมณ์ความรู้สึกของลูกไม่สำคัญ สิ่งที่เราต้องแก้ไขลูก คือ วิธีคิด การไม่รู้จักพอของเขา แต่อารมณ์ร้อน ๆ นั้น ไม่ต้องโฟกัสแก้ไข ปล่อยให้ละลาย หายไปเองได้ค่ะ

 

 

หากพ่อแม่ไม่แยกแยะ เหมารวมว่า “การเอาแต่ใจ” ที่ร้องไห้อาละวาดนั้นไม่ดีทั้งหมด เราจะลุยสอนตอนลูกอาละวาด ซึ่งบ่อยครั้งก็ต้องดังแข่งกับลูก ใช้อำนาจบังคับลูก ตีหรือดุให้เงียบ ผลลัพธ์ที่ได้คือ ต่อต้าน ดื้อเงียบ ก้าวร้าว ซึมซับการใช้อารมณ์แก้ปัญหาแทน หมอขอแนะนำแบบนี้ค่ะ

 

❤︎ ไม่ต้องแก้ความรู้สึกลูก ❤︎

พ่อแม่ต้องยอมรับกฎตามธรรมชาติว่าอารมณ์เกิดขึ้นได้ ก็หายไปเองได้ อย่าบังคับให้เงียบ ทำเหมือนความรู้สึกลูกไม่สำคัญ เราควรรับมือด้วยใจสงบและเมตตาจนกว่าอารมณ์นั้นจะเบาลง จนสามารถเปิดใจคุยกันได้ (อารมณ์มาแล้ว ก็ไป ไม่ต้องเต้นกับมัน)

 

❤︎ แก้ที่ระบบคิด และการตัดใจให้เป็น ❤︎

“การร้องไห้เอาแต่ใจ” หรือโกรธอาละวาดนั้น สาเหตุมาจากเรื่องอะไร พ่อแม่ต้องแกะโจทย์นี้ให้ออก วิเคราะห์ให้ได้ว่ามาจากเหตุไหน เช่น ตัดใจไม่เป็น ไม่รู้จักพอ หรือแก้ปัญหานั้น ๆ ไม่ได้จึงแสดงออกด้วยการร้องไห้แทน

แล้วเราก็สอนลูกให้ตรงตามโจทย์ เช่น สอนให้พูดบอกแทนการร้องไห้ สอนให้คิดอีกมุมเมื่อเพื่อนไม่ให้เล่นด้วย หรือหากไม่รู้จักพอ ตัดใจไม่เป็น ก็ลงโทษด้วยการอด ในครั้งต่อไป และอธิบายว่า ถ้าไม่อยากอดแบบนี้ ครั้งหน้าก็ต้องรักษาเวลา เพื่อให้สมองลูกรู้จักคิด และนำมากำกับตนเอง ในครั้งต่อไป(ตัดใจเป็น คิดเป็นมากขึ้น)

 

เวลาคุยหรืออธิบาย ควรทำเมื่อลูกสงบแล้วนะคะ ลูกจะนิสัยดีขึ้น คิดเป็น คิดได้ ตัดใจได้ พ่อแม่โฟกัสที่ระบบคิดของลูก ไม่ต้องยุ่งกับอารมณ์ลูก รอลูกสงบแล้วค่อยคุยกันนะคะ เป็นห่วงว่า หากพ่อแม่ดุด่าสั่งให้เงียบ ตะเบ็งเสียงแข่งกัน โตขึ้นลูกอาจมีปัญหาด้าน ”สุขภาพจิตใจ” ก็ได้ค่ะ

 

...“แก้ที่ระบบคิด ไม่ใช่แก้ที่อารมณ์”...