พัฒนาทักษะ STEAM ผ่านงานบ้าน
แต่ละครอบครัวมีงานบ้านอะไรบ้างที่มอบหมายให้เด็ก ๆ ช่วยทำ ?
สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่มีลูกใกล้วัยจะเริ่มเข้าเรียนในวัยอนุบาล ก็คงเป็นเรื่องใหญ่สำหรับเราไม่น้อยเพราะด้วยสภาพสังคมที่เปลี่ยนไปทำให้พ่อแม่ต้องทำการบ้านศึกษามากกว่าปกติ เพื่อให้ได้คำตอบสุดท้ายที่เหมาะสมกับลูกและครอบครัวมากที่สุด เรามีเช็คลิสต์ที่บ้านเรายึดเป็นหลักในการเลือกโรงเรียนของลูกดังนี้ค่ะ
ส่วนของครอบครัวและลูก
❤︎ ฝึกลูกดูแลตัวเองเบื้องต้น ❤︎
วางเกณฑ์ให้ลูกสามารถพูดคุยสื่อสาร บอกความต้องการเบื้องต้นได้ก่อนไปเข้าเรียนซึ่งสามารถฝึกได้ตั้งแต่เล็ก ๆ ยุคสมัยนี้เป็นเรื่องที่พ่อแม่ยุคใหม่จะสอนลูกให้ช่วยเหลือตัวเองได้อยู่แล้วค่ะ เช่น กินข้าวด้วยตัวเองได้ เข้าห้องน้ำ บอกว่าปวดอึ ปวดฉี่ได้ เลิกขวดนม หัดใส่รองเท้า แต่งตัวช่วยเหลือตัวเองได้เมื่อไปโรงเรียนเราจะเบาใจได้ว่าอย่างน้อยลูกสามารถดูแลตัวเองได้ไม่มากก็น้อย
❤︎ ฝึกอารมณ์ลูก ❤︎
การอดทนรอคอย ตามกฎระเบียบเมื่ออยู่ร่วมกับผู้อื่น
❤︎ งบการเงินรายปีสถานะการเงินครอบครัว ❤︎
คิดล่วงหน้า หลาย ๆ ปี คำนวณค่าเล่าเรียน - ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ และบวกเงินเฟ้อในอนาคต หรือคิดถึงพี่น้องของลูกที่กำลังจะตามมา ว่าเรามีความสามารถระดับไหนที่จะเลือกโรงเรียนที่ส่งได้สบาย ๆ ไม่ต้องรัดตึงเรื่องการเงิน พอมีเงินเหลือไว้ใช้ในสิ่งจำเป็นเรื่องอื่น ๆ การวางแผนทีดีช่วยให้เราไม่ต้องเครียดและลูกก็ไม่ต้องเปลี่ยนหรือย้ายโรงเรียนเพราะเรื่องการเงิน
❤︎ ครอบครัวมีหน้าที่เตรียมความพร้อม ❤︎
เล่าเรื่องราวที่โรงเรียนให้ลูกฟัง เพื่อเป็นการเตรียมตัวให้ลูกทัศนะคติที่ดีต่อการไปเรียน เช่น อ่านนิทาน พร้อมภาพประกอบว่าไปโรงเรียนลูกจะสนุก และมีเพื่อน รวมถึงการพาลูกไปดูโรงเรียนต่าง ๆ เพื่อประกอบการตัดสินใจด้วย
ในส่วนของโรงเรียน
★ พิจารณาโรงเรียนใกล้บ้าน ★
ระยะทางไม่ไกลจากบ้านเป็นลำดับแรกแล้วค่อย ๆ ขยับไปตามความเหมาะสม เดินทางสะดวกในทุกวัน ยิ่งเป็นชั้นอนุบาล เราไม่อยากให้ลูกโตบนรถ หรือหมดเวลาไปกับการรับส่งลูก ช่วงเล็ก ๆ จะเรียนครึ่งวัน รวมเวลาไปรับ-ส่ง ก็หมดวันเลยค่ะ
★ วุฒิการศึกษาของครู ★
สำคัญมากหากสอนเด็กในวัยอนุบาล ครูผู้สอนจำเป็นต้องต้องมีวุฒิการศึกษาประถมวัย มีความรู้ความเข้าใจในการสอนเด็กโดยเฉพาะ
★ พ่อแม่ควรรู้วิสัยทัศน์ของผู้บริหารโรงเรียน ★
ว่ามีมุมมองต่อการศึกษา ธุรกิจ หรือความรู้อย่างไรบ้าง เพราะจะเป็นมาตรฐานของการขับเคลื่อนโรงเรียน
★ สัดส่วน จำนวนของนักเรียน และครู ผู้ช่วยครูต่อห้อง ★
เพียงพอและดูแลเด็กทั่วถึง เพราะในช่วงแรกยังต้องมีผู้ช่วยครูคอยดูแลเรื่องเข้าห้องน้ำของเด็ก ๆ เช่น อาบน้ำ แต่งตัว
★ สถานที่บริเวณโรงเรียน ★
รั้วรอบขอบชิด
★ สิ่งแวดล้อมภายในโรงเรียนเหมาะต่อการเรียนรู้ ★
เช่น มีสนามเด็กเล่นที่ปลอดภัย มีสวนพื้นที่สีเขียว ห้องสมุดสำหรับเด็ก ๆ เป็นต้น
★ ครูฝรั่งต่างชาติ ★
ไม่ใช่เพียงหน้าฝรั่ง แต่ควรสอบถามถึงวุฒิการศึกษา ทางที่ดีก็ควรจบการศึกษาโดยตรงเฉพาะด้านเป็นครูจริง มีประสบการณ์สอนเด็กเหมือนครูไทยเช่นกัน
★ เมนูอาหาร ★
ประเภทของอาหารเหมาะสำหรับเด็ก ครบ 5 หมู่ และเหมาะสมกับวัย ถูกสุขลักษณะ
★ ระบบการศึกษา ★
แนวทางการเรียนการสอน สำหรับเรามองว่า เด็กเล็กไม่ควรเน้นวิชาการ แต่ควรเป็นการเล่น และสอนเด็ก ๆ หัดช่วยเหลือตัวเอง
★ ห้องเรียนแสงธรรมชาติ ★
ตามวัยเด็กวัยเตรียมอนุบาลเป็นพื้นที่นั่งเล่นมีมุมได้สบาย เหมือนบ้าน ในช่วงปีแรกของการปรับตัวให้เด็ก ๆ รู้สึกสบายใจ ไม่บังคับนั่งเก้าอี้ตลอดเวลา
★ ห้องพยาบาล ★
มีพยาบาลวิชาชีพคอยดูแลในโรงเรียน หากเกิดอุบัติเหตุ
★ นโยบายการคัดกรองเด็กป่วยที่เคร่งครัด ★
ตรวจวัดไข้ก่อนเข้าเรียน และหากป่วยมีน้ำมูกหรือมีไข้ต้องหยุดเรียน
ถ้าหากเรามีหลักเกณฑ์ในใจที่จะเข้าไปเยี่ยมชมโรงเรียนใกล้บ้านที่คิดว่าน่าสนใจ ลองไปซัก 3-4 โรงเรียนเพื่อให้มีมุมมองในการประกอบการตัดสินใจนะคะ เตรียมกระดาษ ๆ ไปจดหัวข้อที่เราอยากทราบ ถามให้ชัดเจน ดูสภาพแวดล้อมโรงเรียน วัดจากความชอบของเราที่มั่นใจที่สุด อาจจะไม่มีโรงเรียนที่ได้ 100% ถูกใจทุกอย่างแต่หากเรามีแนวทางสุดท้ายเราจะเลือกได้ว่าโรงเรียนไหนเข้าใกล้กับเกณฑ์ของเราค่ะ
เราหวังจากโรงเรียนไม่ได้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเรียนที่ไหนก็ล้วนมีข้อดีข้อเสีย ราคาหรือคุณภาพที่ต้องจ่าย ไม่มีทางใดที่เราจะได้ตามต้องการทั้งหมด เพียงขอให้อยู่ในขอบเขตที่เรารับได้ เราพ่อแม่มีหน้าที่สอนลูกให้เขาเป็นตัวเอง ช่วยเหลือตัวเองได้ รู้หน้าที่และเป็นเพื่อนกับลูกไปตลอดก็ดีที่สุดแล้วค่ะ