ข่าวประชาสัมพันธ์ : คิดคลับส์ ชวนเที่ยว Astro Night Family Camp
ชวนคู่พ่อลูก อายุ 6 - 12 ปี มาร่วมสร้างช่วงเวลาแห่งความประทับใจกับกิจกรรม Astro Night Family Camp
เนื่องจากพ่อแม่มีประสบการณ์ชีวิตมากกว่า บ่อยครั้งจึงนำชุดข้อมูลเหล่านั้นมาใส่ให้ลูก โดยไม่ทันคิดว่าลูกควรฝึกคิดเอง และตัดสินใจเอง
จริง ๆ แล้ว ถ้าย้อนดูประวัติคนที่ประสบความสำเร็จ จะพบว่าเขาเหล่านั้นผ่านประสบการณ์มามากมาย ทั้งที่ดีที่สร้างความสุข, ความภาคภูมิใจ และที่เจ็บปวดที่สร้างความทุกข์, ความโกรธและความเศร้า แต่เพราะรู้จักจัดการอารมณ์ตัวเอง คิดยืดหยุ่น จึงทำให้ตั้งสติได้ใหม่ นำบทเรียนที่ได้มาพัฒนาตนเองให้เก่งและแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ
พ่อแม่จึงไม่ควรนำชุดความรู้หรือประสบการณ์ของเราไปใส่ให้ลูก ด้วยเพราะไม่อยากให้ลูกเจ็บปวดโดยตรง หรือไม่อยากให้ลูกรู้สึกล้มเหลว เรากำลังปกป้องลูกมากเกินไป ลูกจะขาดภูมิคุ้มกันเมื่อโตเป็นผู้ใหญ่ ทำให้เวลาล้มแล้วเจ็บปวดมาก และอาจเปราะบางจนไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อได้
หากต้องการลูกแข็งแกร่ง พ่อแม่ต้องเปิดใจ ยอมเห็นลูกทำผิดตั้งแต่เขาเล็ก ๆ โดยเฉพาะถ้าลูกมีความคิดเห็นที่ขัดแย้งกับพ่อแม่ พ่อแม่ก็ต้องยับยั้งตนเองไว้ ยอมให้ลูกตัดสินใจและรับผลลัพธ์ที่ผิดพลาดเอง เปิดโอกาสให้ลูกได้ประสบการณ์ที่เจ็บปวด ค่อย ๆ พัฒนาความแข็งแกร่งในช่วงที่เขายังอยู่กับเรา
ขอให้พ่อแม่สร้างบรรยากาศที่อบอุ่น ปลอดภัย ไม่ซ้ำเติมลูก ไม่ทอดทิ้งเขา อยู่ใกล้ ๆ พร้อมเข้าใจและช่วยเหลือ ความผิดหวัง ความเสียใจ ความโกรธที่ลูกทำผิดเอง ก็จะถูกจัดการอย่างราบลื่น ไม่เก็บกด ไม่โดดเดี่ยว เมื่อสติกลับมาแล้วก็นำบทเรียนมาฝึกคิดต่อ ให้สมองรู้จักการคิดยืดหยุ่นและตัดสินใจแบบใหม่ ๆ เป็น
อันที่จริงแล้ว หลาย ๆ เคสที่หมอพบ ในช่วงที่พ่อแม่เปิดใจรับฟังความคิดเห็นลูก คือ เปิดใจจริง ๆ ไม่ตัดสินลูกและเคารพความคิดลูก บ่อยครั้งที่กลับลงเอยว่า ลูกก็เปิดใจรับฟังพ่อแม่มากขึ้น จนทำให้ลูกมีการตัดสินใจใหม่ที่ดีกว่าเดิม ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะว่า เมื่อลูกได้เป็นตัวของตัวเองตอนอยู่กับพ่อแม่ ไม่ถูกกดดัน เด็กจะมีสมาธิในการเรียบเรียงความคิด เกิดความชัดเจนว่าที่ตนเองเถียงเพราะอยากเอาชนะหรือเปล่า ?
เมื่อพ่อแม่ไม่มีอารมณ์โกรธ รับฟังลูกเป็น ลูกก็จะไม่เกิดอารมณ์ต่อต้าน จะไม่เถียงพ่อแม่ ลูกจะรับฟังเหตุผลพ่อแม่ได้ และระบบการคิดที่เป็นอิสระจากอารมณ์ก็จะทำงานได้ดี สามารถนำข้อมูลของพ่อแม่และของตนเองมาประมวลผล ทำให้เกิดการตัดสินใจใหม่ที่ดีขึ้นได้
ดังนั้นการเปิดใจกว้างของพ่อแม่ นอกจากลูกมีโอกาสผิดพลาดและเรียนรู้แล้ว หลายครั้งยังกลายเป็นเวทีของการสนทนาที่ช่วยให้ลูกได้เรียบเรียงความคิด ตรวจสอบตนเอง และนำไปสู่การตัดสินใจใหม่ โดยพ่อแม่ทำหน้าที่ รับฟังชี้แนะและตั้งคำถามให้ลูกคิดต่อ
หมอเชื่อว่า ไม่มีพ่อแม่คนไหนอยากเลี้ยงลูกให้เก่งเท่าตัวเอง ทุก ๆ คนอยากให้ลูกพัฒนาได้ไกลกว่า ดังนั้นอย่านำชุดข้อมูลในสมองของเรา มาบังคับให้เขาเชื่อเลย พ่อแม่ควรเปิดใจกว้าง ชี้แนะแล้วก็ให้ลูกนำไปใช้เป็นตัวช่วยเพื่อพัฒนาตัวเขาเอง ยอมรับการตัดสินใจลูก หากดูแล้วไม่อันตรายถึงชีวิตก็ปล่อยให้ลูกมีประสบการณ์ที่เจ็บปวดเอง ซึ่งจริง ๆ แล้ว มันก็แค่บทเรียนที่จะสร้างภูมิคุ้มกันให้ลูก ยามที่เขาอยู่กับเรา ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลย
...“ถ้าพ่อแม่ไม่เปิดใจกว้าง ลูกจะขาดประสบการณ์เจ็บปวดตอนที่เราอยู่ช่วยได้ และลูกจะไม่มีทางรู้จักศักยภาพของตนเองเลย”...