1771
การเป็นพ่อแม่ที่ดีไม่มีทางลัด การเลี้ยงดูเด็กคนหนึ่งให้เติบโตก็เช่นกัน

การเป็นพ่อแม่ที่ดีไม่มีทางลัด การเลี้ยงดูเด็กคนหนึ่งให้เติบโตก็เช่นกัน

โพสต์เมื่อวันที่ : August 25, 2020

 

คำถาม “สถานะการเป็นพ่อแม่เริ่มขึ้นเมื่อไหร่ ?” หลายท่านตอบได้ทันทีว่า “ตั้งแต่รู้ว่าลูกมาอยู่ในท้องของเรา” แต่ถ้าถามว่า “การเป็นพ่อแม่ที่ดีเริ่มขึ้นเมื่อไหร่” หลายท่านคงตอบว่า “จนกว่าผลลัพธ์ คือ ลูกของเราที่เติบโตมาเป็นคนดีมีคุณภาพของสังคม มาพิสูจน์ตัวเราว่าเป็นพ่อแม่ที่ดี”

 

ไม่มีทางลัด ไม่มีสูตรสำเร็จในการเป็นพ่อแม่ที่ดี เพราะเราต่างก็เป็นธรรมดาคนหนึ่งก่อนจะมีลูก แต่เมื่อรู้ว่า เรามีเขาอยู่ในตัวเรา หรือ เขาเกิดมาจากเรา พ่อแม่หลายคนเลือกที่จะปรับเปลี่ยนตัวเองให้เป็นคนที่ดีขึ้น ไม่มีใครรู้ว่า การเป็นพ่อแม่ เป็นอย่างไร จนกระทั่งได้มาเป็นเอง หลาย ๆ คนบอกว่า เพิ่งเข้าใจความยากลำบากของพ่อแม่ตัวเองก็ที่เรามีลูกของเรา

 

 

..."ทางลัดไม่มีอยู่จริง มีแค่เพียงความพยายาม ความอดทน การเรียนรู้ที่ไม่สิ้นสุด และความรัก ที่จะช่วยเราเติบโตไปพร้อมกับลูกของเรา"...

 

 

 

  • พ่อแม่บางคนเคยจิบเบียร์ยามเย็น สูบบุหรี่ควันโขมง เมื่อรู้ตัวว่ากำลังจะมีลูก จากที่คิดว่าไม่มีวันเลิกสิ่งเหล่านี้ได้ ก็เลิกได้ทันที
  • พ่อแม่บางคนเคยเที่ยวจนเช้า ตะวันไม่ขึ้นไม่กลับบ้าน เมื่อมีลูก หกโมงเย็นต้องกลับมาเล่นกับลูก อ่านนิทาน นอนสองทุ่มพร้อมลูก
  • พ่อแม่บางคนไม่เคยทำตัวอ่อนโยน มีเมตตาต่อสิ่งมีชีวิตใด ๆ เมื่อมีลูกพวกเขารักและทะนุถนอมลูกยิ่งกว่าชีวิต
  • พ่อแม่บางคนพูดจาขึ้นต้นด้วย ‘มึง’ ลงท้ายด้วย ‘วะ’ มาแทบจะตลอดชีวิต เมื่อมีลูกไม่คำหยาบคายใด ๆ หลุดออกมาให้ลูกได้ยิน มีแค่หางเสียง ‘คะ/ขา’ หรือ ‘ครับ/ครับผม’ ให้ได้ยิน
  • พ่อแม่บางคนไม่เคยทำอาหาร แต่ละวันมักฝากท้องไว้ที่ร้านลาบ ร้านก๋วยเตี๋ยวหน้าปากซอย มาวันนี้ลูกจะกินข้าว พวกเขาเข้าครัวหุงต้ม เลือกผัก จ่ายตลาดเพื่อลูกได้
  • พ่อแม่บางคนแต่ก่อน แค่ห้องน้ำสาธารณะที่มีกลิ่นยังไม่อยากเข้า มาวันนี้ลูกอึลูกฉี่ มือเปล่า ๆ ก็สัมผัสล้างจนเกลี้ยงมาแล้ว

 

การได้รับคำนำหน้าว่าเป็น “พ่อแม่” อาจจะเกิดขึ้นทันที ที่เห็น “สองขีดสีแดง” ขึ้นบนที่ตรวจครรภ์ หรือ อัลตร้าซาวด์พบเจ้าตัวเล็กในท้องเรา แต่ “ความเป็นพ่อเป็นแม่” ไม่ได้เกิดขึ้นเพียงชั่วข้ามคืน หากแต่เกิดจากความพยายามเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อเป็นพ่อแม่ที่ดีขึ้นสำหรับลูกของเรา

 

 

การเลี้ยงเด็กคนหนึ่งให้เติบโตให้เป็นคนที่มีคุณภาพ จึงเกิดขึ้นได้หากพ่อแม่ของเขาเติบโตไปพร้อมกับเขา เบื้องต้นลูกอาจจะเป็นฝ่ายที่ค่อย ๆ เปลี่ยนเรา แต่สุดท้ายพ่อแม่เองก็ค่อย ๆ พัฒนาลูกเช่นกัน

 

พ่อแม่มือใหม่หลายคนยอมรับว่า “ตนเองไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับเด็ก อย่าว่าแต่เลี้ยงเด็กเลย ตะบองเพชรที่บ้านยังเกือบไม่รอด” นั่นไม่เป็นไร แต่เมื่อรู้แล้วว่าเราไม่รู้อะไรเลย เราควรเริ่มเรียนรู้ ศึกษา และไม่หยุดอยู่กับที่ ประสบการณ์ และวันเวลาที่ผ่านเลยไปในแต่ละวัน จะช่วยทำให้เราเป็นพ่อแม่ที่ดีขึ้น

 

 

▶︎ เรามีสิทธิ์กลัว ในวันที่เราไม่พร้อม แต่เมื่อรู้แล้วว่าไม่พร้อม เราจำอย่างไรดีเพื่อให้เรามีพร้อมมากขึ้น (ไม่ใช่แค่ปัจจัย 4 แต่ด้านจิตใจของเราด้วย)

▶︎ เรามีสิทธิ์พลาด แต่เมื่อพลาดแล้วเราต้องจดจำไว้เป็นบทเรียน อย่าพลาดอีกในครั้งต่อไป

▶︎ เรามีสิทธิ์เหนื่อยล้า ไม่ไหว ในวันนั้นเราขอพักได้ ให้คนใกล้ตัวช่วยเราได้ เราหาตัวช่วยจากผู้เชี่ยวชาญได้ แต่อย่ายอมแพ้กับการเป็นพ่อแม่ หรือ ยอมแพ้กับลูกของเรา อย่าลืมว่า ลูกเราเขามีเราคนเดียว

▶︎ เรามีสิทธิ์โกรธ โมโห กราดเกรี้ยว เราระเบิดอารมณ์ได้ แต่ช่วยหามุมที่ไม่ลงกับลูกเราหรือคนที่เรารัก (อนุญาตให้กรี๊ดใส่หมอน ออกไปวิ่งรอบสวน) เพราะนั่นจะกลายเป็นการสร้างบาดแผลให้ลูกเราถาวร

 

 

สุดท้าย สิ่งที่ลืมไม่ได้ คือ ในวันที่เราเป็นพ่อแม่แล้ว ไม่ได้หมายความว่า “ลูกต้องเป็นทุกอย่างในชีวิตเรา” ทั้งชีวิตต้องยกให้ลูก เพราะก่อนจะเป็นพ่อแม่เราก็คือปุถุชนคนหนึ่ง วันที่เป็นพ่อแม่แล้วเราก็ยังเป็นคนธรรมดาที่พบกับจุดเปลี่ยนแปลงในชีวิต (ในทางที่ดี) ดังนั้นเรายังมีชีวิตของเรา มีสิ่งที่เราอยากทำ มีความฝันที่เราตามหา มีลูกแล้ว อย่าลืมใช้เวลาเพื่อตัวเราเองบ้าง ไม่เช่นนั้นในระยะยาว เราอาจจะสูญเสียชีวิตของเราไปโดยไม่รู้ตัว แล้วเราจะเผลอเอาความคาดหวังในตัวเราไปแขวนไว้กับลูก ให้เขาทำเพื่อเรา เพราะเราไม่มีโอกาสทำเพื่อตัวเอง

 

 

..."ขอเป็นกำลังใจให้กับพ่อแม่ทุกท่านในวันที่เหนื่อยล้า เพราะหนทางเลี้ยงลูกให้เติบใหญ่เป็นการวิ่งระยะไกล ไม่ต้องเร่ง (ลูก) ไม่ต้องรีบ (เปลี่ยนแปลง) ไปเรื่อย ๆ ไปช้า ๆ อย่างมั่นคง เพื่อไปจนสุดทาง"...

 

 

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง