978
8 เหตุผลที่เด็กยุคดิจิทัลยิ่งต้องอ่านหนังสือ

8 เหตุผลที่เด็กยุคดิจิทัลยิ่งต้องอ่านหนังสือ

โพสต์เมื่อวันที่ : December 4, 2020

การอ่าน เป็นหนึ่งในกิจกรรมที่ไม่มีใครปฏิเสธว่าช่วยในเรื่องการพัฒนาสติปัญญาของเด็กและเยาวชน แต่ดูเหมือนเด็กไทยก็ยังอ่านไม่มากนัก ประกอบกับเมื่อเข้าสู่โลกดิจิทัล การอ่านของเด็กและเยาวชนก็เน้นไปที่โลกออนไลน์เพิ่มมากขึ้น และอ่านหนังสือลดน้อยลงเรื่อย ๆ ซึ่งยังไม่นับรวมถึงคุณภาพของการอ่านด้วย

 

ที่จริงการอ่านหนังสือไม่ใช่เพื่อช่วยพัฒนาสมองหรือสติปัญญาเท่านั้น และการอ่านก็ไม่ได้หมายถึงเพียงแค่การอ่านออกเสียงได้ หรือรู้ตามเนื้อหา แต่การอ่านคือทักษะที่นำไปสู่การพัฒนาทักษะในการคิดแบบต่าง ๆ ของผู้อ่านด้วย เช่น จินตนาการ การคิดวิเคราะห์ ตีความ ฯลฯ 

 

เด็กยุคนี้เติบโตขึ้นมาในโลกยุคดิจิทัล โลกที่ทุกอย่างเน้นความเร็ว และเร่งรีบไปซะทุกเรื่อง ทำให้เราขาดความละเมียดในการใช้ชีวิต ขาดทักษะชีวิตที่จำเป็นไปอย่างน่าเสียดาย การอ่านหนังสือจึงยิ่งต้องเป็นทักษะอย่างหนึ่งที่มีความจำเป็นในโลกยุคนี้ เพราะรากฐานจากการอ่านหนังสือเป็นการสร้างพื้นฐานชีวิตที่สำคัญ !

 

เหตุผลที่เด็กยุคดิจิทัลยิ่งต้องอ่านหนังสือ 

 

✚ 1. พัฒนาสมอง ✚

ยกตัวอย่างพ่อแม่เล่าหรืออ่านหนังสือให้ลูกฟังตั้งแต่เล็ก น้ำเสียงที่ได้ยิน ภาพที่ได้เห็น จะช่วยให้ลูกเกิดความสนใจฟัง สมองจะสร้างภาพตามเรื่อง จึงเป็นการส่งเสริมจินตนาการ ส่งผลให้เซลล์สมองทำงาน ขณะเดียวกันเมื่อเด็กอ่านหนังสือเอง การทำงานของสมองก็จะเพิ่มศักยภาพไปตามประสิทธิภาพของการอ่าน วัยและประสบการณ์จะช่วยพัฒนาสติปัญญาเพิ่มมากขึ้น 

 

✚ 2. รู้จักรสนิยมการอ่าน ✚

เด็กจะมีหนังสือในแนวที่ชอบและไม่ชอบ ซึ่งส่วนใหญ่เด็กจะเลือกหนังสือที่ตัวเองชอบ ผู้ใหญ่ควรมีส่วนร่วมต่อการแนะนำแนวหนังสือที่น่าสนใจ เหมาะกับวัย และความชอบของเด็กในแต่ละช่วงวัย เพื่อเป็นแนวทางในการเลือกหนังสือ ทำให้การอ่านมีประสิทธิภาพมากขึ้น ที่สำคัญควรให้อิสระในการเลือกอ่านหนังสือที่ชอบ จะทำให้ลูกรู้จักความชอบและรสนิยมการอ่านของตัวเอง  

 

✚ 3. มีความคิดลึกซึ้ง ✚

การอ่านหนังสือเป็นกิจวัตร จะทำให้เด็กมีความคิดในหลายมิติและคิดลึกซึ้งกว่าเด็กที่ไม่ชอบการอ่านหนังสือ พ่อแม่อาจมีส่วนต่อการช่วยเลือกหนังสือด้วยการค่อย ๆ เขยิบความยากและซับซ้อนขึ้นตามวัยของลูก มีวิจัยในต่างประเทศที่ระบุว่า สิ่งแวดล้อมแบบดิจิทัลซึ่งคนรุ่นใหม่สามารถเชื่อมต่อข้อมูลข่าวสารได้ทุกที่ทุกเวลาเพียงปลายนิ้วสัมผัส ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงโดยตรงต่อพฤติกรรมการอ่านของมนุษย์

 

คนรุ่นใหม่จะเลือกเฟ้นอ่านเฉพาะสิ่งที่ต้องการจะนำไปใช้ประโยชน์ เครื่องมือการค้นหา (Search Engine) จะช่วยอำนวยความสะดวกให้ข้อมูลที่ต้องการในเวลาไม่กี่วินาที การอ่านผ่านทางหน้าจอจะเป็นการกวาดสายตาอย่างรวดเร็ว โดยมุ่งความสนใจไปที่คำสำคัญ (Keyword) และไม่เป็นเส้นตรง (Non‐linear Reading) ทำให้การอ่านอย่างลึกซึ้งจะเกิดขึ้นน้อยลงและการจดจ่อกับเนื้อหาที่อ่านก็จะน้อยลงด้วย

 

✚ 4. รู้จักค้นคว้า ✚

เมื่อเข้าสู่โลกของการอ่าน การตั้งคำถามจะเกิดขึ้น ซึ่งจะนำไปสู่การค้นคว้า ฉะนั้นเป็นหน้าที่ของพ่อแม่ผู้ปกครองที่จะช่วยกระตุ้นให้เด็กอยากค้นคว้าสิ่งต่าง ๆ จากหนังสือ เพื่อให้เขาเห็นความสำคัญและความมหัศจรรย์ของการอ่านหนังสือ แล้วเขาจะพบว่าสามารถเปิดโลกแห่งการเรียนรู้ผ่านหนังสือได้มากมาย

 

✚ 5. ฝึกสมาธิได้ ✚

การอ่านหนังสือช่วยฝึกสมาธิได้เป็นอย่างดี ทำให้เด็กจดจ่อกับสิ่งที่เขาสนใจและใช้เวลากับมันได้ตราบเท่าที่สนใจ และถ้าทำอย่างสม่ำเสมอ จะเป็นการปลูกฝังนิสัยรักการอ่านและวินัยให้กับเขาด้วย

 

✚ 6. สร้างแรงบันดาลใจ ✚

หนังสือดี ๆ ช่วยสร้างแรงบันดาลใจได้อย่างมาก เป็นหน้าที่ของพ่อแม่ที่จะสังเกตเด็กว่าสนใจเรื่องใด และพยายามนำหนังสือประเภทที่เด็กชอบมาให้เขาได้รู้จักและสัมผัสอย่างสม่ำเสมอ เป็นการเปิดโลกหนังสือที่หลากหลายให้กับเด็ก

 

✚ 7. ช่วยให้ห่างจอมือถือ ✚

ต้องยอมรับว่าเด็กยุคนี้ติดมือถือเป็นส่วนใหญ่ เรียกว่าแทบจะไม่มีงานอดิเรกอื่น ๆ เหมือนเด็กในอดีต ฉะนั้น ถ้าปลูกฝังให้ลูกรักการอ่านตั้งแต่เล็ก เมื่อเขาเติบโตขึ้นก็มีแนวโน้มจะยังอ่านหนังสืออย่างต่อเนื่อง แม้จะติดมือถือบ้าง แต่จะแบ่งเวลาให้กับการอ่านหนังสือเช่นกัน 

 

✚ 8. อ่านแตกฉาน ✚

ในอดีตมีการให้ความสำคัญกับเรื่องการอ่านเอาเรื่องอย่างมาก ถึงกับมีวิชา “อ่านเอาเรื่อง” เพื่อวัตถุประสงค์ให้เด็กและเยาวชนสามารถจับประเด็นจากการอ่านได้ ซึ่งจะนำไปสู่การอ่านแบบแตกฉาน สามารถอ่านเพื่อจับใจความสำคัญของเรื่อง และประมวลความคิดต่อยอดแตกประเด็นได้ด้วย 

 

เราต้องยอมรับว่ายุคนี้เด็กส่วนใหญ่อ่านหนังสือไม่แตกฉาน ไม่สามารถจับประเด็นได้ ซึ่งก็จะไม่สามารถนำไปสู่การตีความ และพัฒนาไปสู่การพัฒนาทักษะการคิด การคิดเชื่อมโยง คิดวิเคราะห์ ฯ ประกอบกับเมื่อมาเจอการอ่านผ่านเทคโนโลยีที่จะเน้นอ่านแบบกวาดตา การอ่านข้อความสั้น ๆ การอ่านแบบรวดเร็ว ใช้เวลาน้อย ฯลฯ ยิ่งทำให้น่าเป็นห่วงเด็กยุคดิจิทัลเรื่องการอ่านที่มีแนวโน้มขาดประสิทธิภาพ จริงอยู่แม้เด็กจะเติบโตมาในยุคดิจิทัล แต่อย่าปล่อยให้โลกยุคดิจิทัลทำให้ทักษะชีวิตบางด้านจากการอ่านของเด็กและเยาวชนหายไป !!