
จิตวิทยาพัฒนาการเด็ก 4 ขั้นแรก: ทฤษฎีของอีริค อีริคสัน เรียนรู้พัฒนาการวัยเด็ก เพื่อเข้าใจลูกมากขึ้น
เข้าใจลูก เข้าใจตนเอง ด้วย 4 ขั้นพัฒนาการวัยเด็กจากทฤษฎีอีริคสัน ที่ส่งผลถึงวัยผู้ใหญ่
ความเปลี่ยนแปลงของโลกในยุคปัจจุบันเกิดขึ้นเร็วมาก เทคโนโลยีที่ก้าวกระโดด การเข้ามาของปัญญาประดิษฐ์หรือ AI ความเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศ สภาวะโลกร้อน ปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ที่นำมาซึ่งสงครามโดยตรง (ที่ใครหลายคนเคยคิดว่า ไม่น่าเกิดขึ้นอีกแล้วในยุคปัจจุบัน) และสงครามการค้า การเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ แนวโน้มการลดลงของการเกิด หรือกระทั่งโรคระบาดในระดับนานาชาติที่อาจเกิดขึ้นเช่นเดียวกับโรคโควิด-19 ในอนาคต ยังไม่นับสิ่งอื่นอีกมากมายที่เข้ามาทำให้เกิดความไม่แน่นอนในชีวิตของมนุษย์ในปัจจุบันและอนาคตที่กำลังจะเกิดขึ้น
การเลี้ยงเด็กคนหนึ่งในปัจจุบันจึงเป็นเรื่องที่ท้าทายมากและเครียดไม่น้อย โดยเป้าหมายหนึ่งที่ควรมีในการเลี้ยงลูกก็คือ "การเตรียมลูกให้พร้อมรับกับปัจจุบันและอนาคตที่ไม่แน่นอน"
เพราะสุดท้ายแล้ว ไม่ว่าสิ่งใดจะเกิดขึ้น เล็กน้อยหรือใหญ่โตเพียงใด มนุษย์จะอยู่ต่อไปได้ แต่คนที่ปรับตัวและรับมือกับสิ่งที่เกิดขึ้นได้ดีกว่าจะเป็นผู้รอดที่แข็งแรง และไม่สะบักสะบอมจนเกินไปทักษะในการรับมือกับความไม่แน่นอนที่ดี ได้แก่ “สมองที่พร้อม” และ “ทักษะที่มีมากพอ”
สมองที่พร้อม คือ สมองที่เติบโตมาพร้อมร่างกายที่แข็งแรงอย่างปลอดภัย กินให้ดี ออกกำลังกายให้ดี นอนให้พอ ดูหน้าจอไม่มากเกินไป บนพื้นฐานของการเลี้ยงดูที่ดีและสายสัมพันธ์อันดีกับใครสักคน (ซึ่งหากให้ดี คนคนนั้นควรเป็นพ่อแม่ผู้ที่ให้กำเนิดและเลี้ยงเขามา)
สมองที่ปลอดภัย สร้างได้ด้วยการเลี้ยงลูกแบบสันติ ไม่ใช้ความรุนแรง ให้ความรักอย่างไร้เงื่อนไข ไม่ต้องดีเด่นเก่งกาจหรือหล่อสวยเพื่อให้ได้มาซึ่งความรักจากคนในครอบครัว รักในความเป็นตัวของเขา ให้โอกาสให้ลูกได้มีความรับผิดชอบ ลงมือทำ ไม่ปกป้องหรือทำแทนจนเกินพอดี ชื่นชมเมื่อเขาทำดี ทำได้ดี มีความพยายาม มีการพัฒนา ตำหนิอย่างเหมาะสมเมื่อเขาออกนอกลู่นอกทาง ทำสิ่งที่ไม่น่ารัก คิดบนพื้นฐานว่า ไม่มีใครอยากเป็นคนที่ไม่ดี ทำไม่ดี คิดไม่ดี หากแต่การจัดการที่ไม่ดีจะหนุนแรงบวกให้เกิดสิ่งที่ไม่ดีเหล่านั้น ดังนั้นหากเข้าใจ เสริมแรงบวกในเรื่องที่ดี ลดแรงบวกในเรื่องที่แย่ เด็กจะปรับตัวและดีขึ้นได้ สิ่งเหล่านี้จะสร้าง ‘ตัวตนที่ดี’ และ ‘ความมั่นใจในตนเอง’ ที่ดีที่เหมาะสมให้กับเด็กคนหนึ่งได้
ตัวตนที่ดี และความมั่นใจที่ดีต่อตนเอง ทำให้เขารู้คุณค่าของตนเอง รู้ว่าเขามีดีด้านใด ไม่ดีด้านใด ต้องปรับปรุงตรงไหน เขาจะรู้สึกดีกับตัวเองได้ แม้รู้ว่าเขาอาจเก่งไม่เท่าคนอื่น ดีไม่เท่าคนอื่น สวยหล่อไม่เท่าคนอื่นก็ตาม (เพราะโลกใบนี้มีคนที่เก่งกว่าเรา ดีกว่าเรา สวยหล่อกว่าเรามากมาย)
ในขณะเดียวกันก็ไม่หยิ่งผยองหรือดูถูกเมื่อพบกับคนที่ด้อยกว่า การศึกษาพบว่า คนที่มีตัวตนที่ดีและมีความเชื่อมั่นในตัวเองที่ดี จะมีสุขภาพจิตที่ดี มีความพร้อมในการเรียนมากกว่า ทำให้มีระดับการศึกษาที่ดีกว่า มีปัญหาทางจิตใจและอารมณ์น้อยกว่า และส่งผลต่อการรับมือกับปัญหาและความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นกับชีวิตได้ดีกว่า
ทักษะของสมองที่สำคัญอีกประการในยุคนี้คือ “ทักษะการควบคุมตนเอง” หรือ Self Control โดยแบ่งเป็น 3 ส่วน ได้แก่ ทักษะการควบคุมแรงกระตุ้นจากภายนอก ทักษะการควบคุมอารมณ์ และทักษะการควบคุมการเคลื่อนไหวของร่างกาย เมื่อมีสิ่งกระตุ้นจากภายนอกเข้ามากระทบใจ สมองส่วนอารมณ์จะตอบสนองอย่างรวดเร็ว เช่น โกรธ เศร้า กลัว กังวล ขยะแขยง หรือดีใจ หากควบคุม 3 สิ่งนี้ได้ไม่ดี จะรับมือกับความไม่แน่นอนได้ยาก และอาจเกิดปัญหาตามมา เช่น การทำร้ายตัวเองหรือผู้อื่น
พ่อแม่สามารถเลี้ยงลูกให้ควบคุมตัวเองได้ เริ่มจาก...
นี่คือคุณสมบัติเบื้องต้นที่จำเป็นในการรับมือกับอนาคตที่ไม่แน่นอน โดยยังมีทักษะที่จำเป็นในศตวรรษที่ 21 ที่พ่อแม่อาจต้องเตรียมพร้อมให้กับลูกอีกหลายทักษะ รอติดตามในบทความต่อไป
✱ ติดตามข่าวสารและกิจกรรม Thai PBS Kids ได้ทาง Website | Facebook | Youtube | LINE Official ✱