เด็กควรเริ่มเรียน "ภาษาที่สอง" เมื่อไร ?
ช่วงเวลาที่ดีที่สุดหรือ Sweet spot ของการเรียนภาษาของเด็กคือช่วงไหนนะ
คำถามที่ฟังดูเหมือนจะไม่มีอะไร แต่จริง ๆ แล้วแอบซ่อนความอันตรายในคำถามนั้น วัยเด็กเป็นวัยที่ไม่ได้รู้จักตนเองดี ยังไม่รู้จักความถนัด ความชอบ ความสนใจ อาชีพหรือความฝันของเด็กในวัยนี้ ส่วนใหญ่มักมาจากประสบการณ์อันน้อยนิด และการให้คุณค่าของคนรอบข้างและสังคม
...“เป็นหมอสิดีนะ”...
...“เป็นตำรวจได้จับผู้ร้ายด้วย”...
...“เป็นทหารสิโคตรเท่ห์เลย”...
...“เป็นนักธุรกิจนี่รวยดี”...
...“โอ๊ย นักดนตรีเนี่ยนะ จะไปทำอะไรกิน”...
ความฝันหลายอย่างของเด็กหลายคน จึงถูก “ตีกรอบแคบ” ด้วยคำตอบและปฏิกิริยาจากคนรอบข้างมาตั้งแต่วัยเด็ก ที่เลวร้ายคือคำตอบที่ให้ หลายครั้งถูกคาดหวังว่ามันจะเป็นจริงจังจากคนในครอบครัว ความคาดหวัง ที่เมื่อสั่งสมเป็นก้อนโตก็ไม่กล้าหักหาญทำลายความหวังของคนที่รักหลายคนต้องเอาชีวิตและความฝัน เข้าแลกกับมันด้วยความรู้สึกผิด
ส่วนเด็กหลายคนที่ตอบว่า ...“ไม่รู้สิ”...“ยังไม่ได้คิด”... ก็มักถูกมองว่า ...“ไม่ได้เรื่อง”...“ไม่มีความฝัน”...“ไม่เอาถ่าน”...“จนป่านนี้ทำไมยังไม่รู้ว่าอยากเป็นอะไร”... เด็กหลายคนต้องเติบโตไปด้วยความรู้สึกว่า ...“ฉันมันไม่เก่งพอ”...
คำถาม “โตขึ้นหนูอยากเป็นอะไร” ที่อาจไม่ช่วยในการค้นหาตัวตน เราลองเปลี่ยนคำถามที่คุ้นชิน”โตขึ้นหนูอยากเป็นอะไร” เป็น...
...“ลูกมีความสุขในการได้ทำอะไร”...
...“ชีวิตหนูชอบทำอะไรที่สุด”...
...“ลูกอยากแก้ไขปัญหาอะไรข้างหน้าถ้าโตขึ้น”...
...“อะไรที่ลูกรู้สึกว่าเป็นความถนัดของตัวเอง”...
...“มีอะไรในโลกนี้ที่ลูกอยากทำเพื่อให้มันดีขึ้น”...
...“ลูกสนใจศึกษาเรื่องไหนมั้ยที่ทำให้รู้เรื่องนี้มากขึ้น”...
ฯลฯ
คำถามที่ทำให้ลูกค้นหาศักยภาพแทนการหาอาชีพ คำถามที่ทำให้เราสามารถส่งเสริมลูกได้ โดยไม่ต้องตีกรอบแคบ ส่วนคำถาม “โตขึ้นหนูอยากเป็นอะไร” อาจเปลี่ยนเป็นคำบอกเล่าง่าย ๆ ...“โตขึ้นหนูจะเป็นอะไรก็ได้ ที่มันใช่และมีความสุข”
..."รักลูก... ลองเปลี่ยนคำถาม “โตขึ้นหนูอยากเป็นอะไร” เป็นคำถามที่สร้างวิธีคิดที่หลากหลายกันนะคะ"...