37
“มนุษย์ลูก” ผู้ที่ต้องการเลือกสถานที่เที่ยวเอง

“มนุษย์ลูก” ผู้ที่ต้องการเลือกสถานที่เที่ยวเอง

โพสต์เมื่อวันที่ : April 30, 2022

“วายร้าย” วัยสามขวบมาเยือน ทริปท่องเที่ยวที่ตระเตรียมกันมาช่วงเวลาหนึ่งเดือนถึงกับล่มไม่เป็นท่า เพียงเพราะคำว่ามนุษย์ลูก ผู้เดียวเท่านั้นที่สามารถพังทลายทุกอย่างลงมาได้

 

เช้านี้อากาศสดใสทริปเดินทางอันยิ่งใหญ่ของเดือนกำลังเริ่มต้นขึ้น พิกัดการเดินทางไปสู่ภาคเหนือของประเทศ ข้าวของทุกอย่างเตรียมนำขึ้นรถ พร้อมกับมีเสียงเจื้อยแจ้วของลูกที่ทักทายกับผมยามเช้านี้ว่า “พ่อครับ จะไปสวนสนุก” ให้มันได้อย่างนี้สิลูกพ่อ ผมอุทานพร้อมกับกัดฟันเบา ๆ

เราเกลี้ยกล่อมกันอยู่นานทำอย่างไรก็ไม่ยอม เอาแต่พูดอยู่คำเดียว สวนสนุก สวนสนุก แต่ตอนนี้ผมเริ่มไม่สนุกด้วยแล้ว นี่เป็นครั้งแรกเลยที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ เอาล่ะ ถ้าลูกอยากไปสวนสนุกก็จะพาไป จะไม่บังคับให้ลูกทำตามอำเภอใจของผมเพียงฝ่ายเดียว แต่จะมีข้อตกลงกันก่อน คือ ผมอนุญาตให้ลูกทำตามใจแบบนี้ได้แค่ครั้งนี้เป็นกรณีพิเศษเพียงครั้งเดียวเท่านั้น ครั้งต่อไปต้องเป็นประชาธิปไตยฟังเสียงข้างมากเป็นหลัก ลูกพยักหน้าตกลง

 

 

เอริคสัน (หลักจิตวิทยาของบุคคล) กล่าวไว้ว่า เมื่อเด็กอายุถึง 2-3 ขวบ เป็นขั้นที่พัฒนาความเป็นตัวของตัวเองในช่วงนี้ เขาต้องผ่านพ้นวิกฤติทางจิตใจที่ขี้อายและหวาดระแวง จนมีความกล้าในการแสดงออก ซึ่งความปรารถนาของตน ดังนั้นเมื่อเด็กอยากทำบางสิ่งบางอย่างพ่อแม่ก็ควรอนุญาตและยอมรับเขา ตัวเด็กเองก็จะได้รับความมั่นใจจนสร้างความกระตือรือร้นและความเป็นตัวของตัวเองขึ้นมา

 

ในทางกลับกัน หากพ่อแม่ไม่เชื่อถือลูก ไม่ยอมอนุญาตในสิ่งที่เขาต้องการเด็กก็จะเกิดความท้อแท้ หงุดหงิด และมีความรู้สึกอับอาย ตลอดจนเกิดความสงสัยในความสามารถของตนเอง ดังนั้นจึงไม่มีเหตุผลอะไรเลยที่ผมจะมาขัดขวางจุดเริ่มต้นการพัฒนาความเป็นตัวเองของลูกในครั้งนี้ได้ เสียเงินค่าที่พักไปแล้วก็ไม่เป็นไร

 

แต่ถ้าทำให้ลูกเกิดความรู้สึกท้อแท้ หรืออับอายจากการกล้าที่จะพูดความปรารถนาของตัวเองแล้วละก็ ต่อให้มีเงินมากขนาดไหนก็เอาความมั่นใจของลูกกลับมาไม่ได้ ผมเปลี่ยนแผนการเดินทางทันที สวนน้ำใกล้บ้านก็ผ่อนคลายได้เหมือนกัน ดีเสียอีกไม่ต้องขับรถเดินทางไกล ผมพูดปลอบใจตัวเอง

นายริเบอร์ท นักจิตวิทยาชาวอเมริกัน เคยทำการทดลองโดยติดตามการเติบโตของเด็กสองกลุ่ม คือ กลุ่มที่ 1 เด็กที่มีความเป็นตัวของตัวเองสูง (เด็กดื้อ) กลุ่มที่ 2 เด็กที่ไม่แสดงความเป็นตัวของตัวเอง (เด็กเรียบร้อย) ผลปรากฏว่า เด็กดื้อ เมื่อโตขึ้น 80% เป็นคนกล้าแสดงออกมีความสามารถในการคิดวิเคราะห์และแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ได้ดี ส่วนเด็กเรียบร้อย มีเพียง 25% เท่านั้นที่กล้าแสดงออก ผมหวังว่าในอนาคตลูกจะเป็นเด็กที่มีความเข้มแข็งและมีความสามารถ

 

คุณพ่อคุณแม่ครับ เมื่อลูกเอาแต่ใจตัวเองอย่าเพิ่งรีบไปดุไปว่าเขานะครับ ให้ลองถามหาเหตุผล หรือวิเคราะห์สถานการณ์ตามวัยของเขาเสียก่อน เขาอาจกำลังพัฒนาการเติบโตของชีวิตอะไรบางอย่างในตัวเองอยู่ 

 

:: อ้างอิง ::

เลี้ยงลูกให้ถูกตอน 3 ปี ลูกจะทำดีไปตลอดชีวิต. เฉิน ซู่ เจวียน (หวัง เผิง, แปล). กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์วารา.