เด็กควรเริ่มเรียน "ภาษาที่สอง" เมื่อไร ?
ช่วงเวลาที่ดีที่สุดหรือ Sweet spot ของการเรียนภาษาของเด็กคือช่วงไหนนะ
นอกจาก "ฮีทสโตรก" ที่ต้องระวังในหน้าร้อนนี้แล้ว ยังมีค่า UV index ที่มีความรุนแรงระดับสูงสุดในช่วงเดือนมีนาคม-เมษายน ซึ่งส่งผลกระทบต่อผิวหนังและดวงตาของเรา โดยเฉพาะกลุ่มเด็กและกลุ่มที่มีผิวบอบบาง
UV index คือ ค่าดัชนีดัชนีรังสีอัลตราไวโอเลต หรือเรียกให้เข้าใจง่าย ๆ คือ ความแรงของแดด เป็นการวัดปริมาณของความเข้มของแสงแดดที่ฉายลงมาบนพื้นผิวโลก โดยปกติแล้วความเข้มข้นของแดดของไทย มีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 11-12 ซึ่งอยู่ในระดับความรุนแรงที่สูงจัด จึงควรทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF30 ขึ้นไป และค่า PA+++ ขึ้นไป เป็นประจำทุกวันทั้งใบหน้าและผิวกาย หลีกเลี่ยงจากการอยู่ในที่กลางแจ้งช่วง 10 โมงเช้าถึง 4 โมง เสี่ยงเกิดการไหม้ของผิวหนัง ในระยะยาวจะเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคเกี่ยวกับดวงตาและมะเร็งผิวหนังด้วย
เชื่อว่าคุณพ่อคุณแม่รู้กันดีว่าผิวของเด็ก ๆ นั้นยังบอบบาง ไวต่อแสงแดด การถูกแสงแดดเพียงไม่กี่นาทีก็อาจทำให้ผิวไหม้แดดได้ แม้วันที่เมฆเยอะก็มีรังสี UV ที่เรามองไม่เห็นสามารถทำอันตรายต่อผิวของเด็กได้
ความรุนแรงของผิวไหม้
นอกจากผิวหนังจะได้รับผลกระทบจากค่า UV index ที่สูงแล้ว ดวงตาก็เป็นอวัยวะหนึ่งที่ได้รับผลเช่นกัน ดวงตาเป็นอวัยวะบอบบาง การป้องกันดวงตาจากรังสียูวีสามารถทำได้ง่าย ๆ ด้วยการหลีกเลี่ยงอย่าให้ดวงตารับแสงแดด หรือแสงจากหลอดไฟโดยตรง และควรใส่แว่นตาที่มีเลนส์ป้องกันรังสียูวีโดยเฉพาะ ควรรับประทานอาหารที่มีวิตามินเอ ซึ่งช่วยกระตุ้นการทำงานของต่อมที่สร้างสารเมือกและไขมันซึ่งจะไปช่วยให้ผิวกระจกตาและเยื่อบุตาขาวชุ่มฉ่ำ สดใส
ป้องกันตัวเองจากค่า UV index สูง
กรณีเด็กอายุต่ำกว่า 6 เดือน อาจใช้แค่ร่มหรือเครื่องแต่งกายเพื่อป้องกันรังสียูวี แต่หากเลี่ยงไม่ได้ ควรเลือกใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF อย่างน้อย 15 บริเวณใบหน้าและหลังมือและเลือกชนิดที่มีไททาเนียมไดออกไซด์ (Titanium Oxide) และซิงก์ออกไซด์ (Zinc Oxide) เป็นส่วนผสมเพื่อลดโอกาสการเกิดการระคายเคืองของผิวหนัง
ขอบคุณข้อมูล