ยามลูกเติบโตในท้องของคุณแม่ เขาได้รับการดูแล สารอาหาร และความอบอุ่นผ่านทางสายสะดือ ถูกโอบอุ้มไว้อย่างใกล้ชิดภายในร่างกายของคุณแม่

เมื่อร่างกายของลูกเติบโตอย่างเต็มที่และพร้อมที่จะออกมาสู่โลกภายนอก คุณแม่จะเป็นผู้คลอดให้กำเนิดเขาออกมา แต่สิ่งที่เขายังต้องการอยู่เสมอก็คือ ความอบอุ่นจาก ‘อ้อมกอด’ ของพ่อแม่ อ้อมกอดที่จะทำให้เขาไว้ใจแม่ ไว้ใจโลก

หลายคนคงเคยได้ยินคำพูดที่ว่า “อย่าอุ้มเยอะ เดี๋ยวลูกติดมือ” จนทำให้หลายคนเริ่มสงสัยว่า “หรือเราไม่ควรอุ้ม หรือกอดเขามากเกินไป” โดยหากว่ากันตามหลักพัฒนาการแล้วนั้น “จงอย่ากลัวลูกติดมือ” แต่ “จงดีใจที่ลูกติด ‘อ้อมกอด’ ของเรา” เพราะวันนี้

เราคือ ... "ความผูกพัน"

เราคือ ... "ความเชื่อใจ"​

เราคือ ... "ความปลอดภัย"

เราคือ ... พ่อแม่ที่อุ้มเขา เพื่อให้เขารู้สึกโอเคกับโลกใบนี้ครับ

อ้อมกอด ความอบอุ่น ความผูกพัน และความรักที่สัมผัสได้โดยไม่มีต้นทุนที่มากไปกว่า ‘เวลา’ และ ‘ความใส่ใจ’ ที่จะอ้าแขนกอดและอุ้มลูกแต่กลับมีค่าจนประเมินราคาค่างวดไม่ได้ เพราะในที่สุด เราต่างก็รู้ดีว่าวันหนึ่ง ลูกคงเริ่มมีชีวิตส่วนตัวของตนเอง และเขาคงไม่ให้เราอุ้มหรือกอดเขาอีกต่อไป

ในวันนี้เราจึงควรอุ้มและกอดลูกให้ได้มากที่สุด เพราะอ้อมกอดของเราวันนี้ มันจะฝังลงในความรู้สึกของเขาว่าเขาเป็นที่รักของพ่อแม่ และจดจำอ้อมกอดของเราได้อย่างน้อยก็ในใจของเขาแม้วันที่เราไม่ได้อยู่เคียงข้างเขาแล้วก็ตาม

ประโยชน์ของการกอด

ในแง่ของวิทยาศาสตร์การแพทย์ พบว่า การสัมผัสและการกอดนั้นช่วยเพิ่มการหลั่งของฮอร์โมนออกซิโทซิน (Oxytocin) ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่หลั่งจากต่อมใต้สมองหรือที่เราเรียกมันว่า “ฮอร์โมนแห่งความรัก” ที่ช่วยทำให้เรารู้สึกสุข สงบ และดีขึ้นได้ท่ามกลางความเครียดหรือความทุกข์ที่เรากำลังเผชิญอยู่ในขณะนั้น

เมื่อกอดกัน...เราจะไม่รู้สึกเหงาหรือโดดเดี่ยว

เมื่อกอดกัน...เราจะมีความรู้สึกดี ๆ ให้กัน

เมื่อกอดกัน...เราจะสัมผัสได้ถึงความรู้สึกปลอดภัยทางร่างกายและอารมณ์

การกอดยังเป็นวิธีการติดต่อสื่อสาร

รู้สึกถึงความสุขของกันและกัน ทุกข์ของกันและกัน เป็นหนึ่งในการเรียนรู้ที่จะเข้าใจความรู้สึกของผู้อื่น นี่คือจุดเริ่มต้นในการสอนลูกให้รู้จักเอาใจเขามาใส่ใจเรา(Empathy) อีกด้วย

นอกจากนี้มีการศึกษาพบว่าการกอดกันนั้นช่วยลดความขัดแย้ง(Conflict) และความรู้สึกไม่ดี(Negative Feeling) อย่าง ความโกรธ การเพิกเฉยกัน ความตึงเครียดที่มีระหว่างกันลงได้ นั่นหมายความว่า ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ในยามที่เรารู้สึกไม่ดี เราต่างต้องการอ้อมกอดที่เข้าใจ หรือไหล่ให้พักพิงเสมอ

ในแง่ของสุขภาพ มีการศึกษาพบว่า การกอดนั้นสามารถลดความดันโลหิต ลดโอกาสการเกิดหวัด และยังทำให้อารมณ์ดีได้แม้วันนั้นจะเป็นวันที่แย่เพียงใดก็ตาม เมื่อการกอดนั้นทำได้ง่าย ไม่ต้องมีต้นทุน เพียงแค่เปิดใจ อ้าแขน และกอดกัน นี่คือเรื่องดี ๆ ที่ให้กันได้ทุกวันที่ลืมตาตื่นขึ้นมาครับ

..."ยิ่งกอด ยิ่งผูกพัน"...