11691
เลี้ยงลูกแบบเรียบง่าย ไม่ใช่เรื่องยาก

เลี้ยงลูกแบบเรียบง่าย ไม่ใช่เรื่องยาก

โพสต์เมื่อวันที่ : October 20, 2023

 

การเลี้ยงลูกไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่ยากจนเกินไป หากเราเข้าใจพัฒนาการตามวัยและเปิดโอกาสให้เขาได้รับผิดชอบตัวเองได้ กล้าให้เขาได้ลอง กล้าให้เขาได้เรียนผ่านทุกสิ่งและทุกสถานการณ์รอบตัว

 

นั่นหมายความว่า ทุกอย่างรอบตัวลูก คือ ของเล่นกระตุ้นพัฒนาการที่ดีที่สุดสำหรับเขานั่นเอง ในแง่ของพัฒนาการ ตัดภาพมามองวิถีการเลี้ยงลูกในปัจจุบัน ด้วยความอยากให้ลูกมีพัฒนาการที่ดีสมวัย หลายครอบครัวจึงคัดสรรสิ่งที่คิดว่าดีที่สุดสำหรับลูก ไม่ว่าจะเป็น ของเล่นเสริมพัฒนาการราคาแพง คอร์สเรียน กิจกรรมอีกมากมาย และเลี้ยงลูกแบบ “เยอะ” แต่ลูก (อาจ) ได้ประโยชน์ “น้อย” เมื่อเทียบกับเงินที่ลงทุนไปก็ได้

 

ของเล่นเสริมพัฒนาการ ที่มีเยอะจนละลานตา จนลูกเลือกเล่นไม่ถูก ไม่จดจ่อ ไม่มีสมาธิ เล่นไปเรื่อย ๆ ไม่โฟกัส และหากเล่นคนเดียวโดยไม่มีคนเล่นด้วย การเล่นนั้นก็ยิ่งไม่ค่อยเกิดประโยชน์อย่างที่ของเล่นชิ้นนั้น ๆ ถูกออกแบบมาอีกด้วย คอร์สเรียนและกิจกรรมสำหรับเด็กที่จัดลงตารางให้ลูกจนเต็ม แทบไม่มีเวลาพัก หลายอย่างอาจไม่ใช่การเรียนรู้ที่ลูกสนใจใคร่รู้ จนทำให้เกิดทัศนคติเชิงลบต่อการเรียนรู้จริง ๆ ก็ได้ครับ

 

ในแง่ของสุขภาพ คุณพ่อคุณแม่สมัยนี้เป็นห่วงลูกมากจนกังวลไปหมดทุกอย่าง ผื่นขึ้นจุดนึงก็กลัวลูกแพ้อาหาร ไอแค่กหนึ่งก็กลัวเป็นปอดบวม และอีกหลายสารพัดเรื่องที่ทำให้การเลี้ยงลูกของเราเป็นไปพร้อมกับความเครียด ความกลัว ความกังวลใจที่เกินจริงไปมากครับ

 

 

..."ของเล่นที่ดีที่สุดจริง ๆ สำหรับลูก ก็คือ ตัวของ ‘พ่อแม่’ นั่นเอง"...

 

 

 

คุณพ่อคุณแม่ครับ การเลี้ยงลูกให้ลูกมีสุขภาพที่ดี พัฒนาการสมวัย และมีความสุขได้ ไม่ได้เครียดขนาดนั้น เพียงแค่เราเข้าใจธรรมชาติตามวัยของลูก

 

เราสามารถลด "ความเยอะ" ของเราลง และเลี้ยงลูกแบบเรียบง่าย น้อยแต่ได้มากกันดีกว่า เพราะ "ความน้อย" อาจสร้างลูกได้เยอะก็ได้ โดยมีข้อแนะนำดังต่อไปนี้

 

▶︎ 1. ปรับสิ่งแวดล้อมรอบตัวลูก ทำสิ่งแวดล้อมให้เรียบง่าย สะอาด ให้มีของเล่นน้อยลง เล่นทีละชนิด และเล่นให้เกิดประโยชน์ที่สุด เพราะเมื่อมีของเล่นให้เห็นเยอะเกินไป ลูกจะไม่จดจ่อ ตามองอย่างนึง มือถือของเล่นอีกสองอย่าง สรุปเล่นอะไรไม่จบสักอย่าง

 

การสอนให้ลูกเล่นทีละอย่างนั้นดีกว่าเยอะ เล่นเสร็จ สอนให้เก็บก่อนแล้วจึงเล่นชิ้นต่อไป เป็นการฝึกวินัยและการช่วยเหลือตนเองไปในตัวได้อีกด้วย แนะนำของเล่นแบบปลายเปิด เช่น บอร์ดเกม นิทาน หรือตัวต่อ หากลูกเริ่มเข้าใจและสนใจ ของเหล่านี้จะฝึกสมาธิของลูกได้ดีเลยครับ

 

 

▶︎ 2. เวลาว่าง เป็นสิ่งจำเป็นมากในทุกช่วงวัย ยอมให้ลูกว่างและเบื่อบ้างครับ เพราะความว่างและความเบื่อจะเปิดประตูให้ลูกทำนสิ่งที่เขาสนใจและอยากทำจริง ๆ มากกว่าที่ทำตามโปรแกรมที่พ่อแม่เลือกเท่านั้นครับ และบางทีเราอาจจะเจอสิ่งที่ลูกถนัดท่ามกลางความว่างและความเบื่อของลูกก็ได้ นั่งนิ่ง ๆ ก็มีประโยชน์ครับ จำไว้เลยครับ ทั้งพ่อแม่และลูกนั่นแหละ อย่าลืมหาเวลาว่างที่ได้อยู่กับตัวเองคนเดียวบ้างก็ดีนะครับ

 

 

▶︎ 3. งดหรือเลี่ยงหน้าจอทุกชนิด ถอดปลั๊กทีวี คอมพิวเตอร์ และปิดมือถือบ้าง เพราะในปัจจุบัน ต้องยอมรับว่า ‘หน้าจอ’ นั้นดึงเอา ‘เวลา’ ไปจากเราและลูกมาก จนทำให้การใช้ ‘เวลาคุณภาพ’ ระหว่างกันลดลง เมื่อเราปิดหน้าจอ เราจะได้เวลาคืนให้ชีวิตมากขึ้น และเปิดโอกาสในการมีปฏิสัมพันธ์กันระหว่างสมาชิกในครอบครัวมากขึ้น ยิ่งมีเวลาคุณภาพให้กัน ลูกยิ่งดีครับ ดีในทุกด้าน โดยเฉพาะพัฒนาการและจิตใจ

 

 

▶︎ 4. เข้าหาธรรมชาติ ทุกคนคงเคยได้ยินประโยคที่ว่า “อยากไปนั่งอยู่ริมทะเลโง่ ๆ แล้วฟังเสียงคลื่น” นี่เป็นการกระทำที่ไม่โง่เลยครับ เพราะการเข้าหาธรรมชาติเป็น ‘สื่อ’ การเรียนที่ดีที่สุดอย่างหนึ่ง เสียงน้ำตก เสียงคลื่น กลิ่นไอดิน สัมผัสของเม็ดทราย ความร้อนจากแดด ลมอุ่น ๆ ที่โชยพัด นกที่บินอยู่ไม่ไกล เหล่านี้สามารถกระตุ้นประสาทสัมผัสทั้ง 5 ของลูกได้ครบถ้วน และยังทำให้เขาเป็นคนช่างสังเกตอีกด้วย

 

นี่คือ “การเลี้ยงลูกแบบเรียบง่าย” ครับ เลี้ยงลูกได้ไม่ต้องเยอะ โดยกุญแจของความสำเร็จคือ “เวลาคุณภาพที่มีความสุข” ที่ให้ต่อกันของพ่อแม่ลูก เพราะ 'ความสุข' คือ รากแก้วของพัฒนาการดีของลูกนั่นเอง แต่เราไม่จำเป็นต้องสุขตลอดเวลา เพียงแต่สร้างพื้นที่ของบ้านให้เป็นบ้านที่ 'น่าอยู่' และ 'น่ากลับไป' นั่นก็ดีพอที่จะเลี้ยงเด็กคนหนึ่งให้ได้ดีแล้วครับ"

 

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง