การเติบโตในยุคดิจิทัล
ในปัจจุบัน “หน้าจอ” เข้ามามีบทบาทในชีวิตมาก และแทรกซึมเข้าสู่ทุกครอบครัวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
..."เข้าใจถูกต้องแล้วครับ ! วิตามิน Green ที่ว่านี้ ก็คือ ธรรมชาติ นั่นแหละครับ"...
อย่างที่รู้กันดีว่า ธรรมชาตินั้นสำคัญกับเด็ก ๆ ซึ่งเรื่องนี้เราได้รับการยืนยันจากงานวิจัยมากมาย รวมถึงผู้เชี่ยวชาญจากทั่วโลก หนึ่งในนั้นก็คือ Florence Williams ผู้เขียนหนังสือ The Nature Fix : Why Nature Makes Us Happier, Healthier, and More Creative
ที่ระบุไว้อย่างชัดเจนในหนังสือของเขาว่า ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่หากใช้เวลาอยู่กับธรรมชาติ หรือเข้าไปอยู่ในพื้นที่สีเขียวที่เต็มไปด้วยต้นไม้ นอกจากจะช่วยเพิ่มความคิดสร้างสรรค์ ตื่นตัว ส่งเสริมสุขภาพทั้งกายและใจ ลงลึกจิตวิญญาณ ! โดยธรรมชาตินั้น ไม่ได้หมายถึงแค่ต้นไม้ใบหญ้าเท่านั้น แต่รวมถึงแสงสี เสียง และกลิ่น
มีการวิจัยพบว่า ทัศนียภาพตามธรรมชาติดีต่อสายตาของคนเรา ทั้งเด็ก ๆ รวมไปถึงผู้ป่วย เพราะธรรมชาตินี่แหละที่ช่วยให้ผู้ป่วยฟื้นฟูร่างกายได้เร็วขึ้น ยิ่งไปกว่านั้นยังมีหลักฐานชี้ให้เห็นว่า รูปภาพหรือวิดีโอธรรมชาติยังสามารถช่วยเพิ่มความอดทนและลดความต้องการยาแก้ปวดของผู้ป่วยได้อีกด้วย แต่นั่นก็ยังไม่เท่ากับการได้อยู่กับธรรมชาติ และสัมผัสกับธรรมชาติจริง ๆ
เช่นเดียวกับ "เสียงนก"ในธรรมชาตินั้น ยังช่วยให้ร่างกายเราผ่อนคลาย ลดความเหนื่อยล้า แต่จิตใจเรายังตื่นตัว ทำให้เรามีสมาธิ ความพิเศษอยู่ที่การที่มันไม่มีรูปแบบ ไม่มีจังหวะที่ซ้ำกัน เสียงนกเกิดขึ้นแบบสุ่ม ทำให้มันไม่ดึงความสนใจของเรา ไม่ทำให้เราตั้งใจฟังเพื่อหารูปแบบ เสียงนกไม่ติดอยู่ในหัวเรา มันไม่กล่อมให้เราหลับ แต่ก็ไม่ทำให้เราเบื่อ
นอกจากนี้ กลิ่นจากธรรมชาติ ยังส่งผลกระทบกับพฤติกรรมและอารมณ์ของคนเรา โดยนักวิทยาศาสตร์ค้นพบว่า กลิ่นสามารถรักษาอาการป่วย อาทิ กลิ่นของต้นไม้บางชนิดช่วยทำให้มีสุขภาพดี หรือกลิ่นหอมจากน้ำมันในเนื้อไม้ น้ำมันจากไม้สนไซเพรสพันธุ์ญี่ปุ่น มีประโยชน์เป็นสารต้านแบคทีเรีย ช่วยลดระดับฮอร์โมนความเครียดและลดความดันเลือดลงได้ และกลิ่นหอมที่เกิดจากแบคทีเรียในดิน เมื่อเราหายใจเข้าไป ยังช่วยรักษาโรคและต้านเชื้อไวรัสได้อีกด้วย
ตรงกันข้ามกับคนที่ใช้ชีวิตส่วนใหญ่ในเมือง ความสามารถในการรับกลิ่นจะถูกทำลายลงไปเรื่อย ๆ จากการวิจัยพบว่ามากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ของยีนส์ที่เกี่ยวข้องกับการรับกลิ่น จะเริ่มหมดหน้าที่ไป หลังจากที่เราไม่ได้พึ่งพาจมูกสำหรับการเอาตัวรอด
ผมว่าผู้อ่านทุกคนน่าจะตระหนักได้ว่า ธรรมชาตินั้นล้วนสำคัญกับเราและลูกมาก แต่จะให้ทิ้งเมืองไปใช้ชีวิตตามป่าเขาลำเนาไพรก็คงเป็นไปไม่ได้ เพียงแต่อย่างน้อย ผมอยากทุกคนได้ออกไปสัมผัสธรรมชาติบ้าง สละเวลาสักวันละชั่วโมงพาเจ้าตัวเล็กออกไปฟังเสียงนกร้อง หรือวิ่งรับแสงตะวันยามเช้า สูดอากาศใต้ต้นไม้ใหญ่ตามสวนสาธารณะ หรือวันหยุดไหนที่ยังพอมีแรงก็พาลูกลุยเข้าป่า และนอนกลิ้งกันตามชายหาดบ้าง ก็น่าจะช่วยได้ ไม่มากก็น้อย ^^
..."จำไว้ว่า วิตามิน GREEN นั้นสำคัญและจำเป็นต่อลูก และเราจึงไม่ควรละเลยทุกกรณี"...