5755
“เด็กช่วยตัวเอง” ปกติมั้ย ?

“เด็กช่วยตัวเอง” ปกติมั้ย ?

โพสต์เมื่อวันที่ : November 29, 2021

พ่อแม่อาจเข้าใจว่ามีแต่เด็กวัยรุ่นเท่านั้นที่ช่วยตัวเอง เด็กเล็ก ๆ คงไม่รู้จักทำ อันที่จริงแล้ว เด็กเล็กก็รับรู้ความรู้สึกบริเวณอวัยวะเพศได้ และส่วนใหญ่เกิดขึ้นโดยบังเอิญ อาจเกิดจากตอนอาบน้ำแล้วมือไปลูบโดน หรือนอนคว่ำแล้วเสียดสีกับหมอน

 

ซึ่งประสาทรับรู้บริเวณนั้นไว กระตุ้นให้เกิดความรู้สึกดี เพลิดเพลิน และมีความสุข เด็กบางคนทำบ่อย ๆ จนถึงขั้นสุดยอด ตัวเกร็งเหงื่อแตกก็มี ทั้งหมดที่เล่ามาคือ การช่วยตัวเองของเด็ก ซึ่งอยู่ใน “ความปกติ” ที่พบได้ทั่วไป ไม่ได้เกิดจากความผิดปกติของฮอร์โมนเพศแต่อย่างใด พ่อแม่หลายคนกลัวว่าลูกทำแบบนี้ อนาคตจะเซ็กจัด หรือมีอารมณ์ทางเพศผิดปกติ ซึ่งไม่ใช่ความจริง (ยกเว้นว่าเด็กคลุกคลีกับสื่อลามกบ่อย ๆ หรือโดนล่วงละเมิดทางเพศ ซึ่งประเด็นนี้ต้องแยกออกมาต่างหาก) 

 

 

ตามปกติ เด็กจะชอบสำรวจการทำงานของร่างกายตนเอง การค้นพบความสุขจากการเสียดสีอวัยวะเพศจึงเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ แต่เด็กบางคนก็อาจไม่เคยทำเลย นั่นเป็นเพราะเขาไม่ได้สำรวจเจอสิ่งนี้เท่านั้นเอง  

 

พ่อแม่เห็นลูกกำลังทำท่าถูไถจะรับมืออย่างไร ?

อย่างแรกต้องตั้งสติ อย่ากังวลมากเกินไปจนถึงขั้นตี ดุ ด่าหรือขู่ลูก เพราะอาจทำให้ลูกกลัวและสงสัยต่อว่าตนเองผิดอะไร เมื่อไม่เข้าใจก็จะไปแอบทำตอนพ่อแม่ไม่อยู่ สิ่งที่พ่อแม่ควรทำหรือรับมือ คือ ตั้งสติและพยายามชวนลูกไปทำกิจกรรมอื่น โดยไม่ต้องพูดถึงสิ่งที่ลูกทำอยู่ (เหมือนเรามองไม่เห็นเขาทำ

 

ถ้าลูกอายุน้อยกว่า 3-4 ปี พฤติกรรมช่วยตัวเองจะหายไว เพราะความสุขของเด็กวัยนี้คือ การวิ่งเล่น ปีนป่าย ออกกำลังเยอะ ๆ เพียงแค่พ่อแม่เลี้ยงลูกตามพัฒนาการของเขา ให้ลูกวิ่งอิสระ ทำกิจกรรมบ่อย ๆ ไม่ใช่อยู่นิ่ง ๆ ดูการ์ตูนอย่างเดียว เด็กก็จะลืมการช่วยตัวเองไปเลย

 

 

แต่หากเป็นเด็กที่โตขึ้น เช่น วัยอนุบาลหรือประถมฯต้น หากพบว่า ลูกยังทำถี่ ๆ อยู่ แม้ว่าทุกครั้งพ่อแม่จะชวนไปทำกิจกรรมอื่นแทนแล้ว หมอขอให้พ่อแม่กลับมาสังเกตบรรยากาศในบ้านค่ะ ช่วงนี้มีเหตุการณ์อะไรที่ทำให้ลูกเครียดเพิ่มมากขึ้นมั้ย เช่น พ่อแม่ทะเลาะกันบ่อยขึ้น, ย้ายโรงเรียนแล้วครูดุ, เด็กถูกกดดันจากการเรียน, พ่อแม่ดุลูกมากขึ้น

 

อย่าลืมว่า “การช่วยตัวเอง” สร้างความรู้สึกสบายและมีความสุขได้ หากลูกเครียดหรือกังวล เขาจะคลายเครียดด้วยวิธีนี้ (โดยไม่ตั้งใจ) พ่อแม่จึงควรปรับเปลี่ยนการเลี้ยงดู ลดความเครียดและความกดดันของเด็กลง ไม่เช่นนั้น เด็กจะแอบทำเป็นระยะ ๆ 

 

 

หรือบางครั้งเด็กไม่ได้เครียดอะไร แต่เป็นเพราะเหงาหรือรู้สึกเบื่อ ๆ ไม่มีอะไรทำ เด็กกลุ่มนี้มักใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่แต่ในบ้านดูการ์ตูน ไม่ค่อยได้ออกไปวิ่งเล่นกับเพื่อน และไม่ค่อยได้ทำกิจกรรมกับพ่อแม่ การนั่งหรือนอนดูการ์ตูนทำให้เด็กอยู่ในลักษณะนิ่ง ๆ ซึ่งเป็นอิริยาบทที่เด็กช่วยตัวเองง่ายที่สุด

 

ส่วนใหญ่หมอพบว่า เด็กจะช่วยตัวเองบ่อย ในช่วงนั่งดูการ์ตูนหรือไม่ก็ช่วงกำลังจะนอน ดังนั้นพ่อแม่ต้องหมั่นพาลูกทำกิจกรรมเคลื่อนไหวมากขึ้น ออกกำลังกายด้วยกันกับลูก เล่นกันจนเหนื่อยเลยนะคะ เวลาดูการ์ตูนของลูกจะลดลงไปเอง และลูกก็จะมีความสุขกับพ่อแม่มากขึ้น หายเบื่อ หายเหงา พอถึงเวลาเข้านอน ความเหนื่อยก็จะทำให้ลูกหลับเร็ว ไม่มีเวลาให้ช่วยตัวเองด้วยค่ะ

 

 

โดยสรุป ช่วงแรกเด็กช่วยตัวเอง เพราะบังเอิญค้นพบแล้วเกิดความรู้สึกดี ผ่อนคลาย แต่สามารถเลิกทำได้ ให้พ่อแม่ชวนไปทำอย่างอื่นและไม่พูดถึง แต่หากเด็กยังคงช่วยตัวเองอยู่ ให้ดูสิ่งแวดล้อมรอบตัวเด็กที่ทำให้เด็กเครียด เบื่อ เหงา พ่อแม่ต้องเปลี่ยนการเลี้ยงดู ลงมาใช้เวลากับลูกมากขึ้น อย่าปล่อยให้เด็กดูแต่การ์ตูน เพราะท่านิ่ง ๆ ทำให้เด็กช่วยตัวเองง่ายและจะกลายเป็นความเคยชิน 

 

ระลึกไว้เสมอว่า การช่วยตัวเองของเด็กนั้น มีความสุขเป็นรางวัล การดุด่าหรือขู่ให้หยุดของพ่อแม่ จะได้ผลแค่ต่อหน้าแต่จะไปแอบทำลับหลังเพราะต้องการความสุข ถ้าไม่อยากให้ลูกหมกหมุ่นกับความสุขแบบช่วยตัวเอง พ่อแม่ต้องมีเวลาคุณภาพกับลูก ให้มีความสุขกับพ่อแม่แทน และมีความสุขกับการได้ออกกำลังด้วยนะคะ