842
พ่อแม่รักหนูมั้ย ?

พ่อแม่รักหนูมั้ย ?

โพสต์เมื่อวันที่ : February 14, 2022

พ่อแม่ที่มีลูกมากกว่าหนึ่งคน ควรเข้าใจว่าคำพูดที่เราพูดบ่อย ๆ “แม่รักลูกเท่ากันนะ” ไม่สามารถช่วยให้ลูกแต่ละคนรู้สึกว่าถูกรักเท่ากันได้ หากการกระทำบางอย่างลูกยังรู้สึกว่าไม่ใช่

 

...”พ่อแม่รักหนูมากกว่าพี่น้องหรือเปล่า”...

เป็นความรู้สึกที่เกิดขึ้นภายในใจเด็ก เป็นความรู้สึกที่เกิดขึ้นจริง ห้ามไม่ได้ โดยความรู้สึกเหล่านี้ถูกตีความผ่านการสังเกตสิ่งที่พ่อแม่ทำกับตัวเองและทำกับลูกคนอื่น 

 

ลูกมองพฤติกรรมพ่อแม่ และตีความอย่างไร ?

 

✚ พ่อแม่กอดใครบ่อยกว่ากัน ✚

ลูกจะตีความว่า... คนที่ถูกกอดบ่อยกว่า เพราะถูกรักมากว่า

 

✚ พ่อแม่ซื้อขนมให้ใครมากกว่า,แบ่งให้ใครมากกว่า หรือใครได้ของใหม่บ่อยกว่า ✚

ลูกจะตีความว่า... คนที่ได้มากกว่า เพราะพ่อแม่รักมากกว่า

 

✚ พ่อแม่ตัดสินความเทไปทางใครมากกว่า และใครต้องยอมมากกว่า ✚

ลูกจะตีความว่า... คนที่แม่เข้าข้าง ก็คือคนที่พ่อแม่รักมากกว่า

 

✚ พ่อแม่ยิ้มแย้มเวลาอยู่กับใครมากกว่า ✚

ลูกจะตีความว่า... คนที่พ่อแม่เอ็นดูมากกว่า คือคนที่พ่อแม่รักมากกว่า

 

✚ พ่อแม่ใช้เวลากับใครมากกว่า ดูแลใครมากกว่า ✚

ลูกจะตีความว่า.... คนที่พ่อแม่ใส่ใจคือคนที่พ่อแม่รักมากกว่า

 

✚ พ่อแม่ดุใครบ่อยกว่า และโมโหใส่แรงกว่า ✚

ลูกจะตีความว่า... คนที่โดนดุ,โดนโมโหบ่อยและแรง ก็เพราะพ่อแม่รักน้อยกว่า

ถ้าพ่อแม่อธิบายเหตุผล จะช่วยให้ลูกเข้าใจว่าพ่อแม่รักเท่ากันมั้ย ? 

พ่อแม่มีเหตุผลในการทำสิ่งต่าง ๆ กับลูกแต่ละคน เช่น น้องยังเล็กพ่อแม่ก็ต้องอาบน้ำให้ คนพี่ช่วยตัวเองเก่งแล้ว ก็ต้องดูแลตนเอง หรือเด็กบางคนก็เลี้ยงยากจริง ๆ จึงทำให้โดนดุ โดนด่าบ่อยกว่าอีกคน

 

เวลาที่พ่อแม่พยายามอธิบายว่า “น้องยังเล็ก แม่ก็ต้องอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ ตอนเล็ก ๆ แม่ก็ดูแลหนูแบบนี้ แม่ทำเหมือนกัน แม่รักลูกเท่ากันหมดแหละ” หรือ “ถ้าน้องดื้อ แม่ก็ดุเหมือนที่ดุลูก เหมือนกันแหละ แม่ไม่ได้เข้าข้างใคร”

 

หากเป็นเด็กโตสักหน่อย ก็อาจเข้าใจสิ่งที่พ่อแม่อธิบาย แต่หากเป็นเด็กเล็กเช่นวัยอนุบาล เด็กจะไม่เข้าใจในสิ่งที่พ่อแม่พยายามบอกให้ยอมรับ แม้แต่เด็กโตที่ว่าเข้าใจพ่อแม่ได้ ก็มักจะรู้สึกผ่อนคลายหรือหายน้อยใจ เฉพาะช่วงเวลาสั้น ๆ ณ ตอนนั้น เท่านั้นเอง 

สมองของเด็กไม่ได้ซับซ้อนเท่าผู้ใหญ่ ความสามารถในการเชื่อมโยงเหตุการณ์และคำพูดของพ่อแม่ เพื่อให้เข้าใจพ่อแม่ตลอดเวลานั้นทำไม่ได้ และโดยอัตโนมัติ เวลาเห็นพ่อแม่ทำอะไร เด็กมักคิดเข้าข้างตนเอง มากกว่าคิดผ่านมุมมองคนอื่น

 

การกระทำของพ่อแม่ในชีวิตประจำวันที่ลูกตีความต่างหากค่ะ ที่ชัดเจนและมีผลต่อความรู้สึกลูกมากกว่า ดังนั้น คำพูดและคำอธิบายของพ่อแม่ จึงไม่มีน้ำหนักที่จะเปลี่ยนความรู้สึกลูกได้ 

 

สิ่งที่พ่อแม่ควรทำมากกว่าคอยอธิบาย

คือ หันกลับมาปรับเปลี่ยนพฤติกรรมตนเองอย่างตั้งใจ ลองไล่ตามทั้ง 6 ข้อดูนะคะ ข้อไหนทำได้เลย ก็ทำเลยค่ะ เช่น กอดลูกให้เท่ากัน เรียกทุกคนมากอด หรือเข้าไปหาทุกคน แล้วไล่กอดทีละคน อย่ารอลูกเดินมาหาเอง เพราะเด็กบางคนไม่เดินมาให้กอด

 

ส่วนข้ออื่น ๆ หมอเข้าใจว่า ลูกแต่ละคนเลี้ยงยากง่ายไม่เหมือนกัน ลูกที่เลี้ยงยาก ก็มักโดนดุมากกว่า และเราก็มักใส่หน้าบึ้งกับลูกคนนี้บ่อยกว่าคนอื่นด้วย 

สิ่งที่อยากแนะนำก็คือ พ่อแม่ต้องพยายามใจเย็นมากขึ้น ค่อย ๆ พูดกับลูก ไม่ใช่ให้เลิกดุ แต่ขอให้อดทนในการอธิบาย ช้า ๆใจเย็น ๆ ถ้าเป็นเด็กโต พยายามให้ลูกมาร่วมคิดในปัญหานั้น ๆ ถ้าถึงเวลาเด็ดขาดก็ต้องเด็ดขาดแบบไม่ใช้อารมณ์ ที่สำคัญ ต้องแบ่งเวลาคุณภาพมาอยู่กับลูกคนนี้ให้มากขึ้นด้วย

 

ความรู้สึกไม่เป็นที่รัก สร้างความรู้สึกไม่มั่นคงในตนเองและไม่มั่นคงในความรัก ลูกจะรู้สึกตนเองไม่ดีพอ ในระยะยาวจะส่งผลต่อความสัมพันธ์หรือการใช้ชีวิตคู่ได้

 

...“รักลูกเท่ากัน พ่อแม่ต้องแสดงออกด้วยการกระทำมากกว่าคำพูด”...