29
Little Monster Family : ผลแพ้-ชนะ

Little Monster Family : ผลแพ้-ชนะ

โพสต์เมื่อวันที่ : March 1, 2022

Silo กับเพื่อน ๆ เล่นเกมเศรษฐีกัน ระหว่างเล่นคู่แฝด Si กับ Am ที่มีเงินในมือน้อยนิดจับได้การ์ดที่ทำให้พวกเขาต้องหยุดเล่นหนึ่งตา ทำให้ทั่งคู่ไม่พอใจที่ตัวเองกำลังแพ้ จึงทำให้คู่แฝดเลือกที่จะหยุดเล่น และบอกว่าเป็นเพราะเกมนี้น่าเบื่อ

 

เพื่อน ๆ จึงพูดย้อนกลับไปว่า เป็นเพราะทั้งคู่กำลังจะแพ้ใช่ไหม เลยไม่อยากเล่นต่อ คู่แฝดปฏิเสธทันที แล้วยังบอกเพื่อน ๆ อีกว่า พวกเขามีเกมเศรษฐีที่เจ๋งกว่าเกมนี้อีก ให้เพื่อนมาเจอพวกเขาวันเสาร์เพื่อเล่นเกมที่เจ๋ง ๆ นี้ เพื่อน ๆ จึงรับคำ และไปเจอคู่แฝดที่บ้านในวันเสาร์

 

 

คู่แฝดได้ทำให้เกมเศรษฐีกลายเป็นเกมมหาเศรษฐีด้วยการทำให้บอร์ดเกมขนาดเล็กกลายเป็นบอร์ดเกมขนาดใหญ่เท่าคนจริง ๆ เมื่อเพื่อน ๆ เห็นก็รู้สึกตื่นเต้นและอยากเล่นทันที การเล่นเกมมหาเศรษฐีจึงเริ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม เมื่อเล่นไปเล่นมา คู่แฝดก็เริ่มเล่นได้ไม่ดีตามเคย พวกเขามักจะจับได้การ์ดที่ต้องจ่ายค่าปรับหรือหยุดเล่นหนึ่งตา ในขณะที่เพื่อน ๆ มักจะได้การ์ดดี ๆ อย่างเช่น ได้รับเงินโบนัส หรือ ได้สร้างบ้าน เป็นต้น

 

 

ระหว่างที่เล่น อยู่ ๆ ฝนก็ตกลงมาอย่างหนักทำให้บอร์ดเกมมหาเศรษฐีขนาดยักษ์พังทลายลงมา เพื่อน ๆ ต่างยืนมองอย่างเสียดาย แต่ Silo กลับหัวเราะขึ้นมาเสียอย่างนั้น เพื่อน ๆ ถาม Silo ว่า เขาหัวเราะทำไม Silo ตอบกลับว่า ก็เพราะว่าทุกอย่างถูกทำลายเกลี้ยงเลยน่ะสิ เพื่อน ๆ จึงนึกขึ้นได้ว่า ที่ผ่านมาตอนที่คู่แฝดได้การ์ดไม่ดี หรือ กำลังจะแพ้ พวกเขาก็หัวเราะเยาะ โดยที่ไม่เข้าใจความรู้สึกของทั่งคู่เลย เหมือนตอนที่ฝนตกลงมาจนบ้านที่เขาสร้างในเกมพัง พวกเขาก็รู้สึกแย่เช่นกัน 

 

 

เพื่อน ๆ กล่าวขอโทษกับคู่แฝดที่หัวเราะเยาะตอนที่คู่แฝดเล่นได้ไม่ดี ในขณะเดียวกันคู่แฝดก็ขอโทษเพื่อน ๆ เช่นกันที่พวกเขาโกรธที่กำลังจะแพ้ เรื่องก็จบลงด้วยดี

“ความพยายาม” สำคัญกว่า “ผลลัพธ์”

ในการ์ตูนตอนนี้ จะเห็นได้ชัดเจนว่า คู่แฝดกลัวการพ่ายแพ้ จึงปฏิเสธที่จะเล่นเกมต่อ ในขณะเดียวกันเพื่อน ๆ ก็อาจจะทำไม่ถูกที่เผลอไปหัวเราะคู่แฝดที่เล่นเกมได้ไม่ดีนัก แทนที่จะให้กำลังใจกันและกัน การที่เด็ก ๆ จะเรียนรู้และยอมรับผลแพ้ชนะได้ ก็ต่อเมื่อพวกเขาได้รับรู้ถึงคุณค่าภายในตัวเองอย่างมั่นคง และเรียนรู้ว่า “ความพยายาม” สำคัญกว่า “ผลลัพธ์” เสมอ

 

ผู้ใหญ่ควรให้คุณค่ากับ “ความพยายาม” และ "การพัฒนาตนเอง" มากกว่า “ผลแพ้-ชนะ”

เพราะ ผล “แพ้” หรือ “ชนะ” ไม่ได้เป็นเครื่องยืนยันคุณค่าในตัวเด็ก ๆ และไม่ได้ทำให้คุณค่าในตัวเขาเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม เพราะ “คุณค่า” ที่แท้จริงเกิดจาก “การรับรู้ถึงความสามารถของตนเอง” “ความพยายาม” และ “การไม่ยอมแพ้”

 

ในวันที่ลูก “ชนะ” อย่าลืมสอนการมีน้ำใจนักกีฬาให้กับลูก

แม้ว่า ลูกจะเป็นฝ่ายชนะ บทเรียนของผู้ชนะก็มีให้สอนได้เช่นกัน นั่นคือ เมื่อเราอยู่ในจุดสูงสุด เป็นที่หนึ่งของการแข่งขัน เราก็ไม่ควรไปโอ้อวดใคร หรือ หัวเราะเยาะใคร สิ่งที่ควรทำคือ เมื่อดีใจกับผลสำเร็จที่เกิดขึ้นแล้ว เราควรมีนำ้ใจนักกีฬา โดยการให้กำลังใจผู้แพ้ด้วย คำพูดที่สามารถสอนให้ลูกพูดกับอีกฝ่ายได้ เช่น “ไม่เป็นไรนะ วันนี้เล่นเต็มที่แล้ว ครั้งหน้าเอาใหม่นะ” “วันนี้ดีใจที่ได้เล่นเกมด้วย สนุกมาก ๆ เลย ครั้งหน้าเอาใหม่นะ” “ขอบคุณสำหรับการแข่งวันนี้ ครั้งหน้าสู้ใหม่นะ” เป็นต้น เพราะ ผู้ชนะที่แท้จริง คือ ผู้ที่รู้จักคุณค่าของความพยายาม และไม่ดูถูกความพยายามของอีกฝ่าย"

 

ในวันที่ลูก “แพ้” พ่อแม่จะคอยเคียงข้างเขา

แม้วันนั้น เขาจะยอมรับความพ่ายแพ้ไม่ได้ แต่ถ้ามีพ่อแม่เคียงข้างเขา พลังใจที่มีจะกลับมาใหม่แน่นอน ถ้าเขาไม่ได้ขอความช่วยเหลือ เราไม่จำเป็นต้องเข้าไปช่วย เป็นผู้ดูที่ไม่เคยละสายตาจากลูกก็เพียงพอ


"ประสบการณ์ที่มากพอ จะทำให้เด็กเรียนรู้และยอมรับการแพ้-ชนะได้"

เด็กๆ ที่ไม่เคยได้ทำสิ่งต่าง ๆ ไม่เคยฝึกฝน ไม่เคยแข่งขัน ไม่เคยต้องพยายามทำอะไรอย่างเต็มที่ และไม่เคยผิดหวัง พวกเขาจะไม่สามารถเรียนรู้ และยอมรับผลแพ้ชนะได้อย่างเข้าใจ ดังนั้น พ่อแม่และผู้ใหญ่ไม่ได้มีหน้าที่ “ปกป้อง” เด็ก ๆ จากการแพ้ และความผิดหวัง แต่เราสามารถเคียงข้างไม่ว่าวันนั้นพวกเขาจะเป็นผู้ชนะหรือผู้แพ้ก็ตามและเชื่อมั่นในตัวพวกเขาต่อไป