การเติบโตในยุคดิจิทัล
ในปัจจุบัน “หน้าจอ” เข้ามามีบทบาทในชีวิตมาก และแทรกซึมเข้าสู่ทุกครอบครัวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ทำไมลูกไม่เชื่อฟังพ่อเลย ทำไมลูกถึงไม่ทำตามที่พ่อแม่สั่งนะ ทำไม ทำไม และอีกสารพัดเรื่องราวมากมายที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน ผมเชื่อว่าพ่อแม่หลาย ๆ ท่านก็คงประสบปัญหาไม่แตกต่างกัน
นี่เป็นครั้งแรกที่ผมมีลูก และยังคงเป็นคุณพ่อมือใหม่ไปเรื่อย ๆ ที่ไม่มีวันสิ้นสุด เพราะลูกเติบโตขึ้นเปลี่ยนแปลงตัวเองไปทุก ๆ วัน หลาย ๆ อย่างผมก็ต้องเรียนรู้ไปพร้อม ๆ กันกับเขา เราจึงเป็นมือใหม่อยู่เสมอ
บางอย่างเราก็ทำด้วยความเคยชินมาตลอด จนเมื่อลูกเห็นพฤติกรรมพ่อแม่บ่อย ๆ เข้า เขาก็ทำตามโดยที่เราก็ไม่ทันได้สังเกต จนมีวันหนึ่งลูกของผมนั่งเล่นของเล่นอยู่ที่กลางห้อง เมื่อเล่นเสร็จแล้วเขาก็ลุกออกไปทันทีโดยที่ของเล่นยังวางกองเรียงรายอยู่ตรงนั้น ผมเรียกลูกให้เข้าไปเก็บของเล่น เขาทำเฉย หูทวนลม ไม่รับรู้ใด ๆ ทั้งสิ้น
ผมพูดซ้ำ ๆ อยู่หลายครั้งจนเริ่มมีอารมณ์โมโหเข้ามาปะปนเล็กน้อย ลูกเริ่มงอแง แล้วทุกอย่างก็จบลงด้วยน้ำตาจากการลงโทษ ผมก็กลับมานั่งคิดไตร่ตรองดูว่า สาเหตุที่แท้จริงเกิดจากอะไรทำไมลูกถึงไม่เชื่อฟังผมบ้างเลย
และแล้วผมก็พบกับหนังสือเล่มหนึ่ง เขียนโดยคุณเมริษา ยอดมณฑป (นักจิตวิทยาชาวไทย) เจ้าของหนังสือขอให้เติบโตอย่างงดงาม ได้กล่าวไว้ว่า ...”ที่ลูกไม่เก็บของเล่น เป็นเพราะพ่อแม่ของเขาเป็นต้นแบบที่ดีแล้วหรือยัง ? พ่อแม่ที่คอยเอาแต่บอกกับลูกเสมอว่า ‘ให้เก็บของทุกครั้ง’ แต่เมื่อมองไปรอบ ๆ ตัวกลับเห็นสิ่งของพ่อแม่วางกระจัดกระจายไปทั่ว ไม่ได้ถูกจัดเก็บให้เป็นที่เป็นทางเลยแม้แต่น้อย”...
ดังนั้นผมเริ่มเข้าใจ และมองเห็นทุกอย่างชัดเจนขึ้น ผมจึงเริ่มเปลี่ยนแปลงที่ตัวเองก่อนเป็นอันดับแรก เก็บรองเท้าเข้าตู้ทุกครั้งที่กลับเข้าบ้าน ทำซ้ำ ๆ ทุกวันให้ลูกเห็น แล้วเขาก็เริ่มทำตาม อาจจะยังทำไม่ค่อยสม่ำเสมอเท่าไหร่นัก พ่อแม่ควรจะให้เวลาลูกได้ปรับตัวสักหน่อย อย่างน้อย ๆ เขาก็เริ่มลงมือทำแล้ว ผมเก็บกระเป๋าข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ อย่างเป็นระเบียบ เก็บไม้แบดมินตันทุกครั้งหลังเล่นเสร็จ
และแล้ววันที่ผลผลิตต้นงาม ๆ ก็ออกผล เขาเล่นของเล่นเสร็จแล้วก็เก็บเข้าที่ทันทีโดยที่ผมไม่ต้องเอ่ยปากบอกอะไรเลย เขาจัดการด้วยตัวเองทั้งหมด นี่แหละนะที่เขาว่าพ่อแม่เป็นแบบไหนลูกก็จะเป็นแบบนั้น เพราะพ่อแม่คือต้นแบบชีวิตของลูกเขาจะเลียนแบบซูเปอร์ฮีโร่ของเขาทุกอย่าง
ไม่เพียงแต่เป็นเรื่องเล็กน้อยแค่นี้ที่ลูกก็จะทำตาม แม้แต่เรื่องใหญ่ ๆ เช่น การแก้ปัญหาต่าง ๆ ที่เขาแสดงออกมา จะมีผลกับลูกโดยสิ้นเชิง เขาจะคอยเก็บข้อมูล คอยเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา อย่าคิดว่าเด็กเล็กแค่นี้จะไปรู้เรื่องอะไร อย่าไปคิดแทนเขา เพราะวันหนึ่งเมื่อถึงเวลา เขาจะดึงข้อมูลเหล่านั้นที่สั่งสมไว้ออกมาแสดงให้พ่อแม่ได้ประจักษ์ จนคนเป็นพ่ออย่างผมอาจจะอึ้งไปเลยก็ได้
เรามาช่วยกันสร้างรอยเท้าสวย ๆ ไว้ให้ลูกเดินตามกันครับ สร้างไว้กว้าง ๆ หน่อยให้เขาได้มีพื้นที่วิ่งเล่นลองผิดลองถูกด้วย แล้ววันข้างหน้าเขาจะมีรอยเท้าเป็นของตัวเอง
:: อ้างอิง ::
เมริษา ยอดมณฑป (นักจิตวิทยา) ขอให้เติบโตอย่างงดงาม