การเติบโตในยุคดิจิทัล
ในปัจจุบัน “หน้าจอ” เข้ามามีบทบาทในชีวิตมาก และแทรกซึมเข้าสู่ทุกครอบครัวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
“การเลี้ยงลูกด้วยตัวคนเดียว” ความรับผิดชอบชีวิตน้อย ๆ เลี้ยงเขาให้เติบโตจากเด็กไปเป็นผู้ใหญ่ที่สามารถเอาตัวรอดได้ มีอาชีพการเงินเลี้ยงตัว ดีต่อตัวเองและเป็นที่รักของผู้คน
นี่คือภารกิจอันใหญ่หลวงที่ต้องสร้างความเครียดให้กับคุณพ่อคุณแม่ไม่น้อย โดยเฉพาะคุณพ่อคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวยิ่งเป็นภาระที่หนักอึ้งที่ต้องแบกรับไว้แต่เพียงผู้เดียว และแน่นอน คุณไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว พ่อแม่เลี้ยงเดี่ยวอีกมากที่ต้องแบกรับภาระความรับผิดชอบนี้เช่นกัน
..."คุณคนเดียวสามารถเป็นทั้งพ่อแม่และเลี้ยงลูกให้เติบโตอย่าง ‘ไม่ขาด’ ดีและมีความสุขได้"...
อย่างที่กล่าวมาก่อนหน้านี้แล้วว่า ภาระทางการเงิน คือ ข้อจำกัดหลักของการเป็น ‘ผู้ปกครองเลี้ยงเดี่ยว’ ซึ่งจะส่งผลถึงสุขภาพจิต ความเครียด และการจัดการเวลาของผู้ปกครองทั้งในการทำงาน การเลี้ยงลูก และเวลาที่ใช้ในการดูแลตัวเองอย่างการนอนและการออกกำลังกาย ซึ่งหากพ่อแม่เครียดเกินไป เหนื่อยมากเกินไป และทำงานมากเกินไปก็อาจส่งผลเสียต่อลูกได้ เพราะคุณภาพของเวลาที่ใช้ร่วมกันจะลดลง ยิ่งเครียดและเหนื่อย พ่อแม่มักมองเห็นพฤติกรรมที่ไม่ดีของลูกได้ง่ายกว่า ขาดสติได้ง่ายกว่า ดุ สั่ง และบังคับลูกมากขึ้น รวมถึงการทะเลาะกับลูกได้มากขึ้น ซึ่งทั้งหมดนี้ส่งผลเสียต่อพฤติกรรมของลูกทั้งในระยะสั้นและระยะยาว
คำแนะนำสำหรับผู้ปกครองเลี้ยงเดี่ยวในการเลี้ยงลูก เพื่อให้เกิดผลดีต่อลูกและความสัมพันธ์ระหว่างกัน ได้แก่...
✚ 1. การเลี้ยงลูกเชิงบวก ✚
เลี้ยงลูกด้วยความรักที่ไม่มีเงื่อนไข อุ้ม-กอด-บอกรัก-ให้นมอย่างเต็มที่โดยเฉพาะในช่วง 1 ปีแรก ชื่นชมพฤติกรรมที่ดี ไม่จับผิด และปรับพฤติกรรมตามวัยที่ไม่ดีอย่างเหมาะสมด้วยการสื่อสาร-ต่อติดและจัดการอารมณ์ความรู้สึกของลูกอย่างเหมาะสม หลีกเลี่ยงการลงโทษด้วยการตีและการดุด่าว่ากล่าวด้วยความรุนแรง
ในขณะเดียวกันก็สร้างกิจวัตรที่คาดเดาได้ให้กับลูก และมอบความรับผิดชอบตามวัยให้กับลูกโดยเฉพาะความรับผิดชอบเกี่ยวกับพื้นที่ของตัวเองอย่างการกิน การนอน การเก็บของเล่น การบ้าน (ในเด็กวัยเรียน) ความรับผิดชอบต่อการกระทำของตนเอง รวมถึงพื้นที่ส่วนรวมอย่างงานบ้านด้วย เพราะลูกคือทีมเดียวกันที่จะเติบโตขึ้นมารับผิดชอบงานบ้านเพื่อแบ่งเบาภาระของคุณพ่อคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวได้ จงอ่อนโยนแต่เด็ดขาดในเรื่องของวินัยและกิจวัตรตั้งแต่เนิ่น ๆ
✚ 2. การบริหารเวลาอย่างเหมาะสม ✚
หาเวลาเล่นและอ่านหนังสือกับลูกอย่างสม่ำเสมอ โดยผู้ปกครองควรต้องจัดสรรเวลาระหว่างการทำงานและการเลี้ยงลูกอย่างเหมาะสม แม้เวลามีจำกัดแต่หากใช้เวลาที่มีอยู่อย่างจำกัดนั้นอย่างดีและมีค่าที่สุดก็เพียงพอแล้วที่จะสร้างสายสัมพันธ์อันดีกับลูก เพราะผู้ปกครองเลี้ยงเดี่ยวอาจต้องส่งลูกไปให้สถานรับเลี้ยงเด็ก (หรือปู่ย่าตายาย) ช่วยดูแลลูกในช่วงกลางวันของวันทำงาน แล้วมีเวลาให้กันในช่วงเย็น และ/หรือวันหยุด ซึ่งอาจเป็นเวลาที่ไม่มากแต่ขอให้มี ‘คุณภาพ’ และ ‘สม่ำเสมอ’ ก็เพียงพอแล้ว
✚ 3. ดูแลตัวเองให้ดี ✚
เพราะพ่อแม่มีสุขภาพกายและใจที่ดีคือพื้นฐานของการเลี้ยงลูกให้ได้ดี ดังนั้นพ่อแม่ต้องพักผ่อนให้เพียงพอ (นอนไปกับลูกหากทำได้) กินให้ครบถ้วนเหมาะสม ออกกำลังกายสม่ำเสมอตามบริบทของครอบครัวอย่างการพาลูกเดิน การทำสวน หรือการเล่นกับลูกที่ทำให้ได้เหงื่อ ฯลฯ รวมถึงการทำงานอดิเรกที่ชอบเพื่อให้จิตใจได้ผ่อนคลาย ที่สำคัญ อย่าโทษตัวเอง !
✚ 4. การขอความช่วยเหลือจากผู้อื่น ✚
หากภาระที่หนักอึ้งทำให้เราไม่สามารถจัดการเวลาและการเงินได้ การขอความช่วยเหลือก็อาจสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นความช่วยเหลือทางการเงิน และการช่วยดูแลลูกเป็นครั้งคราวจากญาติผู้ใหญ่บ้าง จงอย่ารู้สึกผิดหากต้องขอความช่วยเหลือจากผู้อื่นหากเขาเต็มใจที่จะช่วยเรา
✚ 5. การพูดถึงคนที่ขาดหายไปในชีวิตของลูก ✚
หากลูกอยู่ในการดูแลของเราเป็นหลักโดยที่อีกฝ่ายไม่ได้เข้ามามีบทบาทในการเลี้ยง หากทำได้ก็ไม่ควรว่าร้ายอีกฝ่ายให้ลูกฟังไม่ว่าแท้จริงจะเป็นอย่างไร เพราะอย่างไรก็ตามเราไม่ควรปลูกฝังทัศนคติที่ไม่ดีต่อเพศพ่อหรือแม่ที่ขาดหายไปในชีวิตของลูก ในทางตรงข้าม เราควรส่งพลังบวกและทัศนคติที่ดีต่อทุกเพศ โดยเราเป็นตัวอย่างที่ดีของเพศตนเอง และชี้ให้ลูกเห็นตัวอย่างที่ดีในความเป็นชายหรือหญิง (ที่ขาดหายไป) ผ่านผู้คนที่รู้จัก สื่อที่ได้ดู หรือข่าวดี ๆ ที่ได้เห็นเพื่อให้ลูกเห็นความหลากหลายของผู้คน ไม่จำเป็นต้องยัดเยียดให้ลูกเหมารวมเข้าใจว่า ผู้ชายส่วนใหญ่เลวหรือผู้หญิงส่วนใหญ่ไว้ใจไม่ได้ เป็นต้น
การเป็นพ่อแม่เลี้ยงเดี่ยวไม่ใช่เรื่องง่าย แต่การได้เห็นลูกที่เราทุ่มเทเลี้ยงดูด้วยตัวของเราคนเดียวด้วยความทุ่มเทและความรักอย่างไร้เงื่อนไขเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ที่ดี ถือเป็น รางวัลที่ดีต่อใจที่สุดของคุณพ่อคุณแม่ที่สุด ในวันนี้เรื่องราวในชีวิตกำลังดำเนินต่อไป ลูกค่อย ๆ โตมากขึ้น อย่าลืมจัดสรรเวลาให้ดี มีเวลาเลี้ยงเขา มีเวลาดูแลตัวเองบ้าง และมองโลกในแง่บวกนะครับ
..."ทุกสิ่งเกิดขึ้นแล้ว ดีเสมอ"...