การเติบโตในยุคดิจิทัล
ในปัจจุบัน “หน้าจอ” เข้ามามีบทบาทในชีวิตมาก และแทรกซึมเข้าสู่ทุกครอบครัวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์ฯ พบผู้ป่วยใหม่อีก 3 ราย อายุ 6-15 ปี โดยมีทั้งที่ได้รับกัญชาจากการกิน-สูบ
เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทยและสมาคมกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย รายงานผู้ป่วยเด็กที่ป่วยจากกัญชาระหว่าง วันที่ 21 ถึง 30 มิถุนายน 2565 พบผู้ป่วยใหม่ 3 ราย อายุ 6-15 ปี
รายที่ 1 เพศชาย อายุ 6 ปี 7 เดือน อยู่ กทม. เป็นเด็กสมาธิสั้น ซื้อขนมโลตัสรูปน่องไก่ผสมใบกัญชามารับประทาน มีพฤติกรรมซน สมาธิสั้นไม่อยู่นิ่ง กระโดดปีน คึกคักกว่าปกติ ไม่ฟัง ไม่ตอบคำถาม ช่วงนอนหลับนานกว่าปกติประมาณ 11 ชั่วโมง
ให้คำแนะนำ เด็กไม่ควรกินผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกัญชา สังเกตอาการและโทรติดตามอาการ
รายที่ 2 เพศชาย อายุ 15 ปี 6 เดือน อยู่จังหวัดเชียงราย เป็นผู้ป่วยรักษาภาวะซึมเศร้า เคยใช้กัญชาร่วมด้วยเป็นบางครั้ง กลับจาก รพ. กำลังจะเข้าบ้านแวะซื้อของที่ร้านค้า เด็กขอซื้อบุหรี่สูบ บิดาไม่ทราบว่าเป็นบุหรี่ผสมกัญชา หลังเด็กสูบไปแล้ว 2 มวน มีอาการหูแว่ว คลุ้มคลั่ง ถือมีดวิ่งไล่แทงชาวบ้าน บิดากับชาวบ้านจับส่ง รพ. ตรวจพบสารกัญชาในปัสสาวะ จึงรับไว้ใน รพ. หลังจากรับการรักษาผู้ป่วยอาการสงบลง
รายที่ 3 เพศชาย อายุ 12 ปี 10 เดือน อยู่จังหวัดกาฬสินธุ์ นำใบกัญชามาสูบเพื่อนันทนาการ มีอาการง่วงนอน ซึม มีพฤติกรรมเปลี่ยนแปลง รับเข้ารักษาใน รพ. 1 วัน
ขณะนี้จำนวนเด็กป่วยจากกัญชาเพิ่มเป็น 9 ราย
รวมเพศชาย 8 ราย หญิง 1 ราย
ทำให้ในขณะนี้ จำนวนเด็กป่วยจากกัญชาเพิ่มเป็น 9 ราย ซึ่งได้รับผลกระทบของกัญชาทั้งหมด เช่น เกิดอาการหลอน คุ้มคลั่ง เอามีดไล่แทง ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่น่ากลัว และอันตรายมากๆ ไม่ควรเกิดเสียด้วยซ้ำ
ผู้ปกครองจึงต้องคอยดูแลและให้ความรู้เกี่ยวกับโทษกัญชาที่มีต่อสมองเด็กให้ทุกคนเข้าใจ เพื่อให้พ่อแม่และคนในสังคมตระหนักว่าการใช้กัญชาในเด็กและวัยรุ่นจะส่งผลต่อสุขภาพกายและจิตในระยะเฉียบพลัน รวมถึงมีผลกระทบในระยะยาวต่อสมอง และอาจรุนแรงถึงกับชีวิตได้