สธ.เตือน "นมข้นหวาน" ไม่เหมาะใช้เลี้ยงทารก แนะใช้นมแม่ดีที่สุด

แพทย์ชี้ เด็กต่ำกว่า 6 เดือน ควรกินนมแม่เพียงอย่างเดียว เนื่องจากมีสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อการเจริญเติบโต ขณะที่นมข้นหวานไม่เหมาะสำหรับการเป็นอาหารสำหรับเด็ก 

กรณีครอบครัวหนึ่งในจังหวัดฉะเชิงเทราใช้นมข้นหวานผสมน้ำเปล่าเลี้ยงทารกอายุ 3 เดือน เป็นเหตุให้เด็กเสียชีวิต โดยมารดาให้ข้อมูลว่า ตนมีลูก 6 คน ก่อนหน้านี้ใช้นมชนิดนี้เลี้ยงลูกมาโดยตลอด อย่างไรก็ตามขณะนี้อยู่ระหว่างรอผลการผ่าพิสูจน์การเสียชีวิตจากโรงพยาบาลอีกครั้ง

ทั้งนี้กรมอนามัยเคยออกมาเตือนจากกรณีโลกออนไลน์แชร์ข้อมูล ผู้ใช้ Tiktok รายหนึ่ง โพสต์คลิปผสมนมข้นหวานกับน้ำเปล่าให้ลูกกิน เนื่องจากไม่มีเงินซื้อนมนั้น ตามคำแนะนำจากองค์การอนามัยโลกแนะนำว่า ทารกแรกถึงอายุ 6 เดือน ควรกินนมแม่อย่างเดียว หลังจากนั้นกินนมแม่ควบคู่กับอาหารตามวัยจนถึง 2 ปี หรือมากกว่านั้น

“นมแม่” เป็นอาหารที่มีประโยชน์ที่สุดสำหรับทารก เพราะมีสารอาหารกว่า 200 ชนิด ที่มีประโยชน์ต่อการเจริญเติบโตของเด็ก รวมทั้งเป็นอาหารที่ย่อยง่าย เหมาะสมที่สุดสำหรับเด็กทารก ทั้งยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย

กรมอนามัยย้ำ นมข้นหวานไม่เหมาะสำหรับเด็กอาหารเด็ก เนื่องจากมีส่วนประกอบหลัก คือ ไขมัน โซเดียม น้ำตาล ซึ่งต่างจากนมแม่และนมดัดแปลงสำหรับเด็ก จึงห้ามนำมาใช้เลี้ยงทารก หรือเพื่อเสริมคุณค่าทางอาหารแทนนมแม่ อีกทั้งนมข้นหวานอาจทำให้ทารกและเด็กเล็ก เสี่ยงต่อภาวะขาดโปรตีน พลังงาน และสารอาหาร ส่งผลให้เด็กมีภูมิคุ้มกันต่ำ ติดเชื้อง่าย และอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต

ดังนั้นทารกแรกเกิดถึงอายุ 6 เดือน ควรกินนมแม่เพียงอย่างเดียว โดยไม่ต้องให้น้ำเปล่าหรืออาหารอื่น หลังจากนั้นสามารถกินนมแม่กับการเริ่มต้นอาหารมื้อแรกตามวัย เด็กอายุเกิน 1 ปี สามารถกินนมกล่องUHT หรือนมพาสเจอร์ไรซ์ที่มีราคาย่อมเยากว่าได้

การส่งเสริมเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ และให้อาหารตามวัยแก่ทารกและเด็กอย่างเหมาะสมนั้น สามารถปฏิบัติได้ ดังนี้

1. ให้นมแม่อย่างเดียวตั้งแต่แรกเกิดถึง 6 เดือน ไม่ต้องให้อาหารอื่นแม้แต่น้ำ 
2. เริ่มให้อาหารตามวัยที่มีสารอาหารครบ 5 หมู่ทุกวัน หลังอายุ 6 เดือน ควบคู่กับนมแม่
3. เพิ่มจำนวนมื้ออาหารตามวัยเมื่ออายุลูกเพิ่มขึ้น   จนครบ 3 มื้อ เมื่ออายุ 10-12 เดือน
4. ค่อย ๆ เพิ่มปริมาณ และความหยาบของอาหารขึ้นตามอายุ
5. ให้อาหารรสธรรมชาติ หลีกเลี่ยงการปรุงแต่งรส
6. อาหารสะอาดและปลอดภัย
7. ให้ดื่มน้ำสะอาด หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มรสหวาน และน้ำอัดลม
8. ฝึกวิธีดื่มกินให้สอดคล้องกับพัฒนาการตามวัย และ
9. เล่นกับลูกสร้างความผูกพัน หมั่นติดตาม การเจริญเติบโตและพัฒนาการ”

ที่มา : กรมอนามัย