ฝุ่น PM2.5 กระทบสุขภาพและพัฒนาการเด็ก

แนะนำผู้ปกครองเช็กค่าฝุ่น PM2.5 ก่อนออกจากบ้าน และสวมหน้ากากประเภท N95, FFP2, KN95, KF94, N90, FFP1, KN90, KF80 ลดความเสี่ยงผลกระทบต่อสุขภาพ

หลายพื้นที่ในประเทศไทยกำลังประสบปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือ PM2.5 ที่มีปริมาณเพิ่มขึ้นทุก ๆ ปี ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพ โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง เช่น เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์ และผู้มีโรคประจำตัว (โรคหัวใจ, โรคปอด, ภูมิแพ้, โรคหอบหืด) หากได้รับฝุ่นเข้าร่างกายก็มีความเสี่ยงเจ็บป่วยและมีอาการที่รุนแรงมากกว่าคนทั่วไป

ค่าฝุ่น PM2.5 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุก ๆ ปี โดยเฉพาะภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เนื่องจากมีการเผาเพื่อการเกษตรเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ค่าฝุ่น PM2.5 ในพื้นที่ดังกล่าวมีค่าสูงเกินมาตรฐานที่เริ่มมีผลต่อสุขภาพ

PM2.5 กระทบต่อเด็ก

ทารกและเด็กเล็ก หนึ่งในกลุ่มเสี่ยงที่ไวต่อการสูดดมฝุ่นละอองและควันพิษเข้าสู่ร่างกาย หากเด็ก ๆ ได้รับฝุ่น PM2.5 ในระยะสั้นจะส่งผลให้เด็กมีอาการแสบจมูก น้ำมูกไหล หายใจไม่สะดวก มีเสมหะ และมีอาการระคายเคืองผิวหนัง มีผื่นแดงขึ้นตามร่างกาย และถ้าหากมีการสะสมเป็นเวลานานจะส่งผลให้มีความผิดปกติด้านสติปัญญาและพัฒนาการ ทำให้เด็กมีพัฒนาการช้าลง มีปัญหาด้านการพูด-ฟัง และเสี่ยงที่จะมีภาวะสมาธิสั้นและภาวะออทิสติก

ค่า PM2.5 สูง ทำอย่างไร ?

1. ปิดประตูหน้าต่างให้สนิท
2. หลีกเลี่ยงกิจกรรมนอกบ้าน
3. หมั่นทำความสะอาดบ้าน
4. เปิดเครื่องฟอกอากาศ
5. วางต้นไม้ฟอกอากาศไว้ในบ้าน เช่น ต้นลิ้นมังกร พลูด่าง ว่านหางจระเข้ จั๋ง หน้าวัว เป็นต้น
6. หากจำเป็นต้องออกนอกบ้าน สวมหน้ากากประเภท N95, FFP2, KN95, KF94, N90, FFP1, KN90, KF80 ตลอดเวลา