ข่าวประชาสัมพันธ์ : คิดคลับส์ ชวนเที่ยว Astro Night Family Camp
ชวนคู่พ่อลูก อายุ 6 - 12 ปี มาร่วมสร้างช่วงเวลาแห่งความประทับใจกับกิจกรรม Astro Night Family Camp
ที่บ้านคาดหวังให้เด็กน้อยต้องทำได้ดีอย่างที่หวัง จึงให้เขาไปเรียนพิเศษในทุก ๆ วัน ไม่รู้ว่าเด็กน้อยทำได้เต็มที่ไหม แต่สุดท้ายผลลัพธ์ที่ออกมาไม่ดีพอสำหรับที่บ้าน พ่อแม่ต้องการจะจ้างครูพิเศษมาเพื่อทำให้เด็กน้อยทำได้ดีกว่านี้
คำถามของพ่อแม่ที่มีต่อตัวเขา
“ทำไมถึงพลาดได้ ?”
“ทำไมไม่ได้คะแนนเต็ม ?”
“ทำไมสอบไม่ได้เลขตัวเดียว ?”
"ทำไมทำไม่ได้"
คำถามที่เด็กน้อยอาจจะมีต่อตัวเอง
“ทำไมเขาเรียนไม่เก่ง ?”
“ทำไมถึงทำไม่ได้ ?”
“ทำยังไงถึงจะดีพอ ?”
ผู้ใหญ่อาจจะไม่รู้เลยว่าสิ่งที่เราทำ เพราะคิดว่าเป็นความหวังดี กลับเป็นแรงกดดันมหาศาลกดทับร่างเล็ก ๆ และหัวใจดวงน้อย ๆ เด็กน้อยไม่มีทางเลือกนอกจากนะแบกรับน้ำหนักของความคาดหวังของเราเอาไว้ ไม่รู้ว่าเขาต้องเหนื่อยแค่ไหนในวัยเท่านี้
ถ้าเขาแข็งแกร่งพอเขาอาจจะเอาตัวรอดไปจนโต แต่ถ้าไม่ได้เป็นเช่นนั้น เราไม่รู้เลยว่าอะไรจะเกิดขึ้นได้ เด็กคนหนึ่งจะแบกรับน้ำหนักเหล่านั้นได้นานแค่ไหน ไม่มีใครรู้ บางคนเลือกที่จะทิ้งทุกอย่างไป บางคนเลือกที่จะแบกต่อไปจนโตเป็นผู้ใหญ่ และถ้าวันหนึ่งเขาไม่สามารถแบกมันได้อีกต่อไป เด็กน้อยอาจจะเลือกทางที่ไม่ได้สวยงาม แล้ววันนั้นเราจะรับได้ไหม ?
บางครั้งผู้ใหญ่อาจจะลืมไปว่า แม้แต่ตัวเองยังทำเช่นที่เราคาดหวังต่อเด็กน้อยไม่ได้เลย แล้วทำไมเราถึงใส่ความคาดหวังเช่นนั้นไปที่ตัวของเขา
ไม่มีเด็กคนไหนเหมือนกัน ไม่มีใครเก่งไปทุกเรื่อง เพราะสิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือตัวเองมองเห็นว่าตัวเองทำอะไรได้ดีก็เพียงพอแล้ว ทำได้ดี ไม่ได้แปลว่า ต้องดีที่สุด ต้องเป็นที่หนึ่ง ต้องดีกว่าใคร ขอเพียงทำได้ดี และพร้อมจะพัฒนาต่อไป
กลับที่ปัจจุบัน วันที่เด็กน้อยยังอยู่ตรงหน้าเรา เขายังสุขภาพดีทั้งกายใจ เขายังมีรอยยิ้มที่สดใส อย่าทำลายวัยเยาว์ของเขาด้วยความคาดหวังของเรา ความคาดหวังที่เป็นอันตรายต่อใจของเด็กน้อย หวังให้เขาสมบูรณ์แบบ เก่งทุกด้าน เก่งทุกอย่าง เชื่อฟัง ทำตาม และทำต่อไปจนถึงฝันของเรา ความคาดหวังเหล่านี้สุดท้ายเพื่อใคร ? ในความเป็นจริงแล้วสิ่งที่ผู้ใหญ่ควรคาดหวัง ไม่ใช่เพื่อตัวเรา แต่เพื่อตัวเด็ก ๆ อย่างแท้จริง
ส่วนเรื่องอื่น ๆ เป็นสิ่งที่เด็ก ๆ จะค่อย ๆ เลือกและเติมแต่งเข้าไปในชีวิตของเขาด้วยตัวเขาเอง ตราบใดที่สิ่งนั้นไม่ทำให้ตัวเขาหรือผู้อื่นเดือดร้อน
“พ่อแม่มอบชีวิตให้ลูก” แต่เราไม่ใช่เจ้าของชีวิตลูก
“ชีวิตเป็นของลูก” เมื่อถึงเวลาอันสมควรพ่อแม่ควรปล่อยให้ลูกไปตามทางที่เขาเลือกเดินโดยมีเราเป็นบ้านที่รอให้เขากลับมาพักใจได้เสมอ
วันนี้หากไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไร กอดเด็กน้อยไว้แน่น ๆ บอกรักเขา มองให้เห็นสิ่งดี ๆ ในตัวเขา ช่วยสอนเขาในสิ่งที่เขาทำไม่ได้ เชื่อมั่นและไม่ยอมแพ้ในตัวเขา และเมื่อเด็กน้อยพยายามสุดความสามารถแล้ว แม้ผลลัพธ์สุดท้ายจะไม่ได้ดีที่สุดอย่างที่หวัง ขอให้เรายิ้มให้เขาและบอกเขาว่า “ภูมิใจในตัวลูกเสมอ” เพราะหัวใจของเด็กน้อยจะเติบโตต่อไปได้เมื่อเขาเชื่อว่าตัวเองมีคุณค่าและดีพอสำหรับเรา