พ่อแม่เฝ้าระวัง ! "โรคไข้อีดำอีแดง" ระบาดในเด็ก

"โรคไข้อีดำอีแดง" (Scarlet Fever) เป็นโรคติดเชื้อแบคทีเรียที่มักพบในเด็ก ไข้สูง เจ็บคอ และผื่นแดงทั่วร่างกาย หากไม่ได้รับการรักษา อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนร้ายแรงได้

โรคไข้อีดำอีแดง (Scarlet Fever) เป็นโรคติดเชื้อแบคทีเรียที่เกิดจากเชื้อ Streptococcus group A ซึ่งเป็นเชื้อชนิดเดียวกับที่ทำให้เกิดคออักเสบ (Strep throat) โรคนี้มักพบในเด็กอายุ 5-15 ปี และสามารถแพร่กระจายผ่านทางละอองฝอยจากการไอ จาม หรือการสัมผัสสารคัดหลั่งของผู้ป่วย หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที อาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงได้

อาการของไข้อีดำอีแดง

• มีไข้สูง 38.3–40°C
• เจ็บคอรุนแรง
• ต่อมทอนซิลบวมแดง อาจมีหนอง
• ลิ้นมีลักษณะเป็นตุ่มแดงคล้ายสตรอว์เบอร์รี (Strawberry tongue)
• มีผื่นแดงคล้ายกระดาษทรายขึ้นตามร่างกาย
• ผิวลอกบริเวณที่มีผื่นหลังจากไข้ลดลง
• ใบหน้าซีด แต่แก้มแดง

(ขอบคุณภาพจาก : www.nhs.uk )

การรักษาไข้อีดำอีแดงทำได้โดยการให้ยาปฏิชีวนะ รวมถึงดูแลอาการอื่น ๆ เช่น รับประทานยาแก้ปวดและลดไข้ ดื่มน้ำมากๆ และพักผ่อนให้เพียงพอ และแยกตัวผู้ป่วยจากคนอื่นเพื่อลดการแพร่เชื้อ

ป้องกันไว้ดีกว่าแก้ ! ด้วยการหมั่นล้างมือบ่อย ๆ เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อ หลีกเลี่ยงการใช้ของร่วมกับผู้ป่วย เช่น ผ้าเช็ดหน้า ช้อน แก้วน้ำ หลีกเลี่ยงการสัมผัสละอองฝอยจากผู้ติดเชื้อ

นอกจากนี้ผู้ปกครองควรหมั่นสังเกตอาการของเด็กต่อไปอีกประมาณ 2 - 3 สัปดาห์หลังจากการรักษา เพื่อเฝ้าระวังภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น หากพบเด็กมีอาการตัวบวม ปัสสาวะออกน้อยลง หรือปัสสาวะมีสีแดงผิดปกติ อาจเป็นสัญญาณของภาวะไตอักเสบ หรือหากมีอาการเหนื่อยง่าย หัวใจเต้นเร็วผิดปกติ อาจเป็นสัญญาณของภาวะแทรกซ้อนทางหัวใจ ควรรีบนำเด็กไปพบแพทย์ทันที

แม้ว่าไข้อีดำอีแดงจะเป็นโรคที่สามารถรักษาให้หายได้ แต่หากปล่อยไว้โดยไม่รับการรักษา อาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพที่รุนแรงได้ ดังนั้นผู้ปกครองควรสังเกตอาการของลูกน้อย และพาไปพบแพทย์ทันทีหากพบอาการน่าสงสัย เพื่อให้ได้รับการดูแลอย่างถูกต้องและปลอดภัย

ขอบคุณข้อมูล : กรมครบคุมโรค / www.nhs.uk