1417
ปรับพฤติกรรมลูกด้วย Star chart

ปรับพฤติกรรมลูกด้วย Star chart

โพสต์เมื่อวันที่ : March 30, 2023

 

เชื่อว่าคุณพ่อคุณแม่น่าจะเคยปวดหัวกับพฤติกรรมต่าง ๆ เหล่านี้ของลูก เล่นเสร็จแล้ว ไม่ยอมเก็บของเล่น งอแงเวลาตื่นไปโรงเรียนตอนเช้า หรือไม่รับผิดชอบเรื่องทำการบ้าน กับจัดตารางสอนเอง

 

พ่อแม่สามารถปรับพฤติกรรมลูกง่าย ๆ ได้ด้วยเทคนิคที่เรียกว่า “Star Chart” หรือตารางดาวเด็กดี ซึ่งก็คือ การให้รางวัลหรือแรงเสริมทางบวก เมื่อลูกสามารถทำพฤติกรรมตามเป้าหมายได้ โดยใช้สติกเกอร์ดาวเป็นตัวแทนในการสะสมแต้ม คล้าย ๆ กับการสะสมแสตมป์ 

 

เมื่อลูกสะสมสติกเกอร์ดาวครบ ลูกก็จะได้ของรางวัลตามที่ตกลงกันไว้ เป็นเทคนิคการปรับพฤติกรรม ที่หมอเด็กแนะนำมาก ๆ และส่งผลดีต่อพัฒนาการของลูก เหมาะกับเด็กวัยอนุบาล-ประถมต้น

 

 

ปรับพฤติกรรม 5 ขั้นตอน

 

🔻 1. กำหนดพฤติกรรมเป้าหมายที่อยากให้เกิดแบบเป็นรูปธรรมชัดเจน ถ้ามีหลายพฤติกรรมแนะนำให้เลือกทีละ 1 อย่างก่อน เช่น เก็บของเล่นหลังเล่นเสร็จ ไม่ฉี่รดที่นอนตอนกลางคืน หรือถ้าลูกมีปัญหางอแงเวลาตื่นไปโรงเรียนตอนเช้า ไม่ยอมอาบน้ำแปรงฟัน ก็กำหนดเป็น ตื่นนอนก่อน 6.30 น. หรือออกจากบ้านไปโรงเรียนไม่เกิน 7 โมง เป็นต้น

 

🔻 2. ตกลงกับลูกว่า “รางวัลที่อยากได้คืออะไร ?” เช่น ถ้าลูกไม่ฉี่รดที่นอนตอนกลางคืนครบ 5 วัน แม่จะพาไปกินไอศกรีมนอกบ้าน หรือถ้าเข้านอนก่อน 3 ทุ่ม สามวันติดกัน แม่จะซื้อของเล่นให้ ซึ่งรางวัลที่ตกลงกันนั้นก็ต้องจูงใจลูกมากพอ ไม่อย่างนั้นลูกก็จะไม่ทำพฤติกรรมตามที่พ่อแม่อยากได้ และก็ไม่ควรจะนานเกินไป เพราะเด็กอาจจะท้อใจซะก่อน

 

จริง ๆ แล้วรางวัลไม่จำเป็นต้องเป็นสิ่งของก็ได้นะคะ อาจจะเป็นให้โอกาสให้ลูกได้ทำในสิ่งที่ชอบเพิ่มขึ้น เช่น ได้เล่มเกมส์เพิ่มขึ้น 30 นาที หรือได้ไปในที่ ๆ อยากไป เช่น ไปเที่ยวสวนสัตว์ หรือได้ไปเล่นที่สนามเด็กเล่นนอกบ้าน ไม่เอาแบบนามธรรม หรือคลุมเครือ เช่น เป็นเด็กดี หรือมีความรับผิดชอบ เพราะลูกจะไม่รู้ว่าต้องทำอะไรบ้าง และเกิดความสับสนในการให้คะแนน

 

 

🔻 3. วางตารางดาวในที่ที่เด็กเห็นได้ชัดเจน เมื่อเด็กทำตามที่ตกลงไว้ได้ต้องติดสติกเกอร์ทันทีที่เด็กทำได้ เพื่อให้เด็กมีกำลังใจและเป็นแรงกระตุ้นให้ทำต่อ

 

🔻 4. ให้รางวัลตามสัญญา เมื่อเด็กสะสมสติกเกอร์ครบตามที่ตกลงกัน

 

🔻 5. เมื่อลูกสามารถทำพฤติกรรมนั้นได้สม่ำเสมอ พ่อแม่ก็สามารถเพิ่มพฤติกรรมอื่น ๆ เพื่อปรับต่อไปได้ค่ะ

 

ลองเอาไปปรับใช้กันดูนะคะ นอกจากจะช่วยให้พฤติกรรมลูกดีขึ้นแล้ว เด็ก ๆ ยังรู้สึกสนุกเพราะได้มีส่วนร่วมด้วย และครอบครัวเองก็ได้ใช้เวลาคุณภาพไปพร้อม ๆ กันค่ะ

 



เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง