ลองดูสิ...ทำงานบ้านแล้วจะมีความสุข

หลายคนคงรู้จักงานวิจัยที่ตอบคำตามเรื่อง “อะไรคือสิ่งที่ทำให้ชีวิตมีความสุข” ของมหาวิทยาลัย Havard (Harvard Grant Study) เป็นการศึกษาชีวิตมนุษย์ 724 คน ที่ยาวนานถึง 75 ปี ข้อสรุปจากการศึกษานี้ พบว่าปัจจัยสำคัญที่ทำให้ชีวิตมีความสุข คือ สายสัมพันธ์ที่ดีกับคนใกล้ชิด และความรู้สึกว่าตนเองมีคุณค่าต่อผู้อื่น

นอกจากข้อสรุปที่ ถูกนำไปอ้างอิง และนำไปใช้อย่างแพร่หลาย ยังมีผลการศึกษาที่อยากหยิบยกมาเล่าเพิ่มเติม เนื่องจากการศึกษานี้ ศึกษาชีวิตของผู้เข้าร่วมวิจัยตั้งแต่วัยเด็กจนถึงบั้นปลายชีวิต ผลการศึกษาที่น่าสนใจ คือ เด็กที่ทำงานบ้านมีแนวโน้มประสบความสำเร็จและมีความสุขในชีวิตมากกว่าในวัยผู้ใหญ่ และยิ่งเด็กได้ทำงานบ้านเร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งดีความสุขในชีวิตมนุษย์ เกิดจากสัมพันธภาพอันดี และการที่ตัวเองมีคุณค่ากับคนอื่น

เด็ก ๆ อยากเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว อยากเป็นที่ยอมรับ และอยากทำตัวให้เป็นประโยชน์ วัยเตาะแตะ เด็กจะเฝ้ามองว่าผู้ใหญ่ต้องทำอะไรบ้างในแต่ละวัน แล้วเขาก็จะเริ่มเลียนแบบ จับไม้กวาด ล้างจาน ล้างรถ ตากผ้า ฯลฯ เมื่อเขาโตขึ้น ช่วยเหลือตัวเองได้ดีแล้ว การที่เรา“มอบหมาย”งานบ้านให้เด็กรับผิดชอบเป็นการส่งสัญญาณว่า พ่อแม่ยอมรับความสามารถของเด็ก 

ข้อดีที่ส่งเสริมให้เด็กมีชีวิตที่มีความสุขและประสบความสำเร็จ

1. ส่งเสริมให้เด็กมีความภูมิใจในตัวเอง รู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่าต่อครอบครัว 
2. รู้สึกว่าตัวเองเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญของครอบครัว
3. ทำให้เด็กได้ฝึกทักษะชีวิต  
4. สอนให้เด็กรู้จักทักษะการจัดการ เด็ก ๆ ต้องจัดลำดับความสำคัญของงาน และใช้เวลาให้มีประสิทธิภาพสูงสุด
5. ได้เรียนรู้กระบวนการ เรียนรู้ ทดลอง ล้มเหลว ทำซ้ำและสำเร็จ ซึ่งเป็นกระบวนการสำคัญที่จะนำไปสู่ความสำเร็จ เด็กได้เรียนรู้ว่า ไม่มีใครทำสิ่งใดได้ดีตั้งแต่แรก หัวใจของความสำเร็จ คือการลงมือทำ และเรียนรู้จากความล้มเหลวนั้น

ดังนั้นพ่อแม่ต้องมอบหมายงานบ้านให้ลูกได้รับผิดชอบตามวัยและความสามารถของเด็ก อย่าลืมว่าลูกไม่ได้เป็นเด็กตลอดไป ชีวิตของเขา ไม่ได้มีแค่เรื่องเรียนจบและทำงาน ความรับผิดชอบในเรื่องของตัวเอง การทำความสะอาดบ้าน การทำอาหาร การซ่อมแซมสิ่งของเครื่องใช้ เป็นทักษะที่เขาควรได้เรียนรู้จากที่บ้าน