บันไดขั้นแรกของเจ้าตัวเล็ก
เด็กจะพร้อมเรียนรู้ประสบการณ์ใหม่ ๆ อย่างมีความสุขเพราะฐานของเขานั้นมั่นคงและเเข็งแรง
ตอนเราเป็นเด็ก พ่อแม่เราอาจจะทำดีที่สุดของท่านแล้ว แต่บางครั้ง “ดีที่สุด” ของพ่อแม่อาจจะไม่เพียงพอต่อความต้องการของเรา เมื่อเราโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ เราแต่งงาน และมีลูกของเราเอง ผู้ใหญ่หลายคนจึงอยากให้ในสิ่งที่ลูกขอ เพื่อเติมเต็มความต้องการของตัวเองเมื่อครั้งยังเยาว์วัย
เราพยายามเติมเต็มในทุกสิ่งที่ลูกต้องการ เพื่อเติมช่องว่างในหัวใจที่เราขาด เราไม่กล้าปฏิเสธลูก ถ้าสิ่งนั้นไม่เหนือบ่ากว่าเเรงจนเกินไป เราจะสามารถทำเพื่อลูกได้เสมอ แต่ในความเป็นจริงแล้ว เราลืมข้อเท็จจริงบางประการไป
ข้อเท็จจริงที่ว่า “ไม่มีใครสมหวังในทุก ๆ อย่างบนโลกใบนี้”
เพราะทุกอย่างที่เราอยากได้ ไม่สามารถซื้อมาได้ด้วยเงินตราเพียงอย่างเดียว แต่ได้มาด้วย “ความพยายาม” “ความรัก” “ความอดทน” และอื่น ๆ ดังนั้นการปล่อยให้ลูกได้เรียนรู้ “ความผิดหวัง” จากสิ่งที่หวังไว้บ้าง ก็เป็นภูมิคุ้มกันทางใจของลูกประการหนึ่ง
เด็กเล็ก ๆ อาจจะผิดหวังจากการไปเดินห้างสรรพสินค้า แล้วไม่ได้ของเล่นติดมือกลับบ้านทุกครั้ง แต่เมื่อเขาโตขึ้นมาหน่อย อาจจะผิดหวังจากการไม่ได้วิ่งเข้าเส้นชัยเป็นที่หนึ่ง สอบได้คะแนนไม่ดีอย่างที่หวัง ทำงานศิลปะไม่ได้สวยที่สุด
'ความผิดหวัง' เล็ก ๆ ในวัยเด็ก ทำให้เขาได้เรียนรู้ว่า ไม่ใช่ทุกครั้งที่จะได้อย่างที่ตนหวัง แต่ก็อีกเช่นกันไม่ใช่ทุกครั้งที่เขาจะผิดหวัง เด็กจะเรียนรู้ที่จะยอมรับทีละเล็กทีละน้อย ๆ เขาจะเรียนรู้ที่จะปลอบประโลมตัวเอง ให้มีความหวัง และลุกขึ้นยืนใหม่
จากประสบการณ์การสอนเด็กน้อยคนหนึ่ง เด็กคนนี้พ่อแม่ไม่เคยบอกปฏิเสธต่อคำขอของเขา มาวันหนึ่ง เขาต้องผิดหวังเมื่อ เราบอกกับเขาว่า “วันนี้หมดเวลาแล้ว ไว้มาเล่นครั้งหน้านะ” เขาถึงกับร้องไห้ และโวยวายไม่ยอมรับความผิดหวังในครั้งนี้ เพียงเพราะ เขาต้องได้ในสิ่งที่ต้องการ ตอนนั้น เดี๋ยวนั้น เท่านั้น
..."สุดท้ายเราไม่สามารถปกป้องเขาไปได้ตลอดชีวิต แม้เราจะหลีกเลี่ยงไม่ให้ลูกประสบกับความผิดหวังในวัยเยาว์ แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตามชีวิตของลูกก็ไม่สามารถหลีกหนีความผิดหวังได้"...
การล้มในตอนเด็กนั้นเจ็บก็จริง แต่เขายังมีเรา และมีเวลาเรียนรู้อีกมาก แผลนั้นไม่นานก็หาย แต่การล้มลงในตอนโตนั้น เขาต้องสู้ด้วยตัวเขา และการล้มที่ปราศจากประสบการณ์นั้นอาจจะหนักหนาเกินทานทนสำหรับเขา จนอาจจะไม่อยากลุกขึ้นมาสู้อีก และกลัวการเจ็บไปอีกนาน
แม้ลูกจะต้องเสียใจ ร้องไห้ ร่ำร้อง ขอร้องให้พ่อแม่อย่างเราให้ใจอ่อน หรือ เขาอาจจะต้องเจ็บตัว พ่ายแพ้ ผิดหวังแล้วกลับมาหาเรา ในฐานะพ่อแม่ เราต้องเข้มแข็ง ไม่ตามใจและตอบสนองต่อทุก ๆ ความต้องการของลูก แต่สิ่งที่เราทำได้ คือ กอดเขาแน่น ๆ เช็ดน้ำตา ทำแผลให้เขา และสอนเขาให้ลุกขึ้นใหม่ จากนั้นให้เราอยู่เคียงข้างจนเขาสามารถลุกขึ้นยืนได้เองอีกครั้ง
"ความผิดหวัง” จึงเป็นวัคซีนสร้างภูมิคุ้มกันทางใจอย่างดี ยิ่งได้รับตอนเด็ก ๆ ทีละเล็กทีละน้อย ยามเป็นผู้ใหญ่จิตใจเขาจะแข็งแกร่งพอที่จะไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรคที่จะเข้ามาในชีวิตของเขาอีกมากมาย