“ลูกสาว 5 ขวบ 3 เดือนแล้วแต่กลางคืนยังฉี่รดที่นอนอยู่เลยค่ะ ไม่ทราบว่าน้องควรไปพบแพทย์มั้ยคะ”

ปัญหาปัสสาวะรดที่นอน เป็นโรคที่พบได้บ่อย แต่ส่วนใหญ่หายได้เองเมื่ออายุโตขึ้นจะถือว่าผิดปกติ เมื่อเด็กอายุมากกว่า 5 ปี แล้วยังมีปัสสาวะรดที่นอนอย่างน้อย 2 ครั้ง/สัปดาห์ เป็นเวลาติดต่อกันอย่างน้อย 3 เดือน ผลเสียที่อาจตามมา คือ เด็กขาดความมั่นใจในตัวเอง รู้สึกเครียด หรือการเรียนแย่ลง

สาเหตุอาการฉี่รดที่นอน

• 1. หลับลึก จึงไม่รู้สึกตัวเวลาปัสสาวะรดที่นอน
• 2. กระเพาะปัสสาวะเล็ก หรือบีบตัวไวเกินไป
• 3. ปริมาณปัสสาวะมาก

ปัจจัยอื่น ๆ จากตัวเด็กที่มักพบร่วมกัน ได้แก่ พัฒนาการล่าช้า สมาธิสั้น อยู่ไม่นิ่ง มีปัญหานอนกรนและหยุดหายใจขณะหลับ มีปัญหาการเรียนหรือความเครียด เช่น การไปโรงเรียน พ่อแม่หย่าร้าง

อาการแบบไหนควรไปหาหมอ

• ปัสสาวะผิดปกติช่วงกลางวัน เช่น ปัสสาวะราด ปวดปัสสาวะแล้วรอไม่ได้
• ปัสสาวะน้อยกว่า 4 ครั้ง หรือมากกว่า 7 ครั้งต่อวัน
• มีอาการผิดปกติอื่นร่วมด้วย เช่น น้ำหนักลด ดื่มน้ำเยอะผิดปกติ 

ปรับพฤติกรรมลดปัญหาลูกฉี่รดที่นอน

✅ สร้างแรงจูงใจและเตรียมความพร้อมให้เด็กอยากหายจากปัสสาวะรดที่นอน

✅ ไม่ตำหนิหรือลงโทษเด็ก เมื่อปัสสาะราด

✅ ฝึกให้เด็กรับผิดชอบด้วยตนเองเมื่อปัสสาวะรดที่นอน เช่น ช่วยแม่ทำความสะอาดและเปลี่ยนผ้าปูที่นอน

✅ ชมเชยให้กำลังใจ ด้วยการติดดาวหรือสติกเกอร์ลงปฏิทินในวันที่ไม่มีปัสสาวะรดที่นอน (star chart) 

✅ งดเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เช่น ชา โกโก้ ช็อกโกแลต

✅ ลดการดื่มนมหรือน้ำ อย่างน้อย 2 ชม.ก่อนเข้านอน

✅ พาเด็กปัสสาวะก่อนเข้านอนทุกครั้ง

ปัญหาปัสสาวะรดที่นอนเป็นปัญหาที่เจอได้บ่อย และดีขึ้นเมื่ออายุโตขึ้น หากพ่อแม่เข้าใจและให้เวลา เด็กก็จะสามารถดีขึ้นและหายได้เอง แต่หากกังวลใจหรือปรับพฤติกรรมแล้ว ยังไม่ดีขึ้น แนะนำปรึกษากุมารแพทย์เพื่อรักษาต่อไป