“ลูกขี้อาย-ลูกไม่มั่นใจ-ลูกกังวล” สาเหตุและการช่วยเหลือ
หากช่วยผิดวิธีเด็กจะมีความวิตกกังวลสูงแทน
หมอคิดว่ามันคงพบปรากฏการณ์นี้เหมือนกันทั่วโลก เลยไปหาข้อมูล ไปอ่านตำราเรื่องการทำงานของสมองพื้นฐานว่าเกิดอะไรขึ้นกับสมองมนุษย์ ทำไมเราถึงชอบแกะกล่องสุ่ม ? ทำไมมนุษย์ชอบการถูก surprise ?
ข้อนี้ตอบได้ไม่ยาก เพราะสมองของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมโดยเฉพาะมนุษย์ มีความอยากรู้อยากเห็นเป็นพื้นฐาน ให้นึกถึงตอนที่บรรพบุรุษของเรายังอาศัยอยู่ในธรรมชาติ สมองต้องออกแบบการทำงานเพื่อให้เราอยู่รอด
เราต้องการค้นหาว่า สิ่งไหนทำให้เราอยู่รอด สิ่งไหนทำให้เราอันตราย สิ่งที่เราไม่รู้ไม่เห็นสมองจะกระตุ้นให้เราเข้าไปค้นหา แต่สมองผู้ใหญ่มีประสบการณ์เก่ามากกว่า จึงสามารถให้สมองส่วนเหตุผลดึงประสบการณ์เก่ามายับยั้งพฤติกรรมได้ดีกว่าในเด็ก เด็ก ๆ มีความอยากรู้อยากเห็นมากกว่าผู้ใหญ่ เพราะเค้ายังไม่มีประสบการณ์เก็บไว้ในสมองนั่นเองว่าสิ่งนั้นคืออะไร พอได้รู้แล้วความอยากรู้อยากเห็นในเรื่องเดิมก็จะลดลง
สำหรับกล่องสุ่ม หรือ กล่องของขวัญ ที่เราไม่เห็นว่าของข้างในคืออะไร เราจะตื่นเต้นก่อนที่จะได้แกะกล่อง แต่เมื่อได้เห็นของที่อยู่ในกล่องนั้นแล้ว ทำไมความสุขนั้นจะหายไปอย่างรวดเร็ว ?
คำตอบอยู่ที่สารสื่อประสาท มีสารสื่อประสาทที่ชื่อว่า “โดปามีน” ซึ่งจะหลั่งออกมาเพื่อทำให้ร่างกายตื่นตัวพร้อมสำหรับการค้นหาสิ่งใหม่ ๆ สารนี้จะกระตุ้นให้ร่างกายเกิดพฤติกรรมตอบสนองความต้องการนั้น พอได้รับการตอบสนองร่างกายจะหลั่งสารที่ทำให้รู้สึกพึงพอใจ ทำให้เกิดความสุข
ดังนั้น "โดปามีน" เป็นสารสำคัญที่อยู่ในวงจรการได้รับรางวัลของสมอง (reward pathway) ประสบการณ์ที่ทำให้ “รู้สึกมีความสุข” จะถูกจดจำเอาไว้และทำให้เราอยากมีประสบการณ์นั้นซ้ำ ๆ ดังนั้น "กล่องสุ่ม" ความสุขสัมพันธ์กับการลุ้นว่าของข้างในคืออะไรมากกว่าการได้เล่นหรือได้ใช้งานของที่อยู่ข้างใน ดังนั้น หลังจากได้แกะแล้ว สิ่งนั้นจะดึงดูดความสนใจของเด็กได้น้อยลง
แล้วพ่อแม่ต้องกังวลแค่ไหนกับพฤติกรรมนี้ของลูก ?
ขอให้คุณพ่อคุณแม่เข้าใจ ว่าสมองเด็กไวกับความอยากรู้อยากเห็นมากกว่าผู้ใหญ่ แต่เมื่อมันเกี่ยวข้องกับวงจรรางวัลของสารสื่อประสาท มันทำให้เสพติดได้เช่นกัน ดังนั้นเราก็ต้องควบคุมพฤติกรรมของลูก คำแนะนำ ก็คือ หากลูกขอร้องให้ซื้อของเล่นกล่องสุ่ม หมุนตู้กาชาปอง ก็สามารถซื้อให้ได้ตามความเหมาะสม แต่ต้องเป็นการตกลงไว้ก่อน กำหนดราคาของที่จะซื้อ กำหนดที่มาของเงิน และตกลงโอกาสที่จะได้รับของเล่นชิ้นนั้น ถ้าเป็นเด็กวัยประถมปลาย เรื่องนี้สามารถสอนเรื่องการตลาดพื้นฐานให้ลูกฟังได้ด้วย เรื่องอุปสงค์ อุปทาน การตั้งราคาสินค้า
ส่วนประเด็นเรื่องการดูคลิปวิดีโอ ประเภท unboxing คงใช้กติกาเหมือนกับการดูหน้าจอสำหรับแต่ละครอบครัว คือ กำหนดเวลาในการดู และดูด้วยกัน (ถ้านั่งอยู่ด้วยไม่ได้ ก็อยู่ในบริเวณที่รู้ว่าลูกดูอะไรอยู่)