906
เลี้ยงลูกรักด้วยหลัก "5L"

เลี้ยงลูกรักด้วยหลัก "5L"

โพสต์เมื่อวันที่ : October 6, 2023

 

งานเลี้ยงลูกเป็นงานที่มีความสำคัญยิ่ง เวลาเราทำงาน สิ่งสำคัญคือการ 'ตั้งเป้าหมาย' การตั้งเป้าหมาย ก็เพื่อจะนำไปสู่การหาวิธีการที่เหมาะสม

 

ซึ่งจะพาเราไปให้ถึงซึ่งเป้าหมายนั้น ผู้เขียนเองก็มีเป้าหมายในการเลี้ยงลูก แต่เป้าหมายไม่ใช่ความอยากให้ลูกเป็นอะไร ทำอาชีพอะไร แต่อยากให้ลูกมี "คุณสมบัติ" อะไร ที่เชื่อว่าจะติดตัวลูกไปเพื่อใช้ในการดำรงชีวิต

 

ผู้เขียนมีความตั้งใจที่จะสร้างคุณสมบัติติดตัวให้ลูก คือ การเป็นเด็กที่มีความสุขง่าย คิดเป็น (มี Executive Function, EF ดี) มีความนับถือตัวเองดี มี Growth mindset และมีจิตอาสา ผู้เขียนพบว่าการสร้างคุณสมบัติเหล่านี้ ใช้แนวทางที่ไม่ยาก

 

 

หลัก 5L คืออะไร ?

 

L : Love การให้ความรักและทำให้ลูกรู้สึกว่าเป็นที่รัก ซึ่งไม่ได้มาจากแค่การเอาข้าวให้กิน มีที่ให้อยู่อาศัย มีเงินให้จ่ายค่าเทอม แต่การให้ความรัก คือการแสดงความรัก ผ่าน "ภาษารัก" ของลูก ซึ่งเด็กแต่ละคนมีภาษารักที่ไม่เหมือนกัน "การสัมผัส คำพูดดีๆ การมีเวลาคุณภาพ การดูแลช่วยเหลือ การได้ของขวัญ" ซึ่งเป็นการแสดงความรักผ่านสิ่งที่เราเรียกว่า "เวลาคุณภาพ"

 

..."เวลาคุณภาพ" ที่ลูกจะได้ใช้ในการเรียนรู้ว่าตัวเองเป็นที่รักและมีความหมาย ซึ่งสำคัญต่อการเติบโตทางใจและการ "นับถือตนเอง"...

 

 

L : Learn พ่อแม่มีหน้าที่ช่วยพัฒนาสมองลูก สมองแห่งการ "เรียนรู้" คือสมองส่วนคิด เรียนรู้เหตุผลและควบคุมอารมณ์ การเรียนรู้ที่ไม่ใช่แค่การได้ความรู้ แต่เป็นการเรียนรู้ที่ "ฝึกวิธีคิด" ของลูก การเรียนรู้ของเด็กส่วนใหญ่ได้จากการเล่น การตั้งคำถาม การสอนด้วยประสบการณ์ การสอนด้วยการให้เผชิญปัญหา และการสอนด้วย "อุปสรรค" ในชีวิตจริง

 

 

L : Limits เด็ก ๆ ไม่ได้ต้องการคนที่คอยรักเค้าเพียงเท่านั้น แต่เค้าต้องการใครสักคนที่จะคอยบอกว่า "อะไรทำได้ อะไรทำไม่ได้ในชีวิต" การฝึกวินัยเชิงบวก ที่เกิดจากใครสักคน ที่จะกล้าเผชิญกับน้ำตาลูก เพราะไม่อยากให้ลูกเอาแต่ใจ ใครสักคนที่กล้าตั้งกติกา เพราะอยากให้ลูกมีวินัย ใครสักคนที่จะกลั้นน้ำตาของตัวเอง แล้วพูดคำว่า "ไม่ได้" ด้วยความ "kind" but "firm"

 

..."เลี้ยงลูกด้วยความรักอย่างเดียว คือการเลี้ยงที่ล้มเหลว"...

 

 

L : Let them grow สิ่งสำคัญนอกจากการให้ความรักและการสร้างวินัย หน้าที่อีกอย่างที่สำคัญของพ่อแม่ คือ "การให้อิสรภาพในการเติบโต" การให้อิสรภาพ ไม่ใช่การปล่อยปละละเลย แต่คือการปล่อยมือในบางครั้งเพื่อให้ลูกได้มีก้าวย่างของตัวเอง คือการปล่อยให้ลูกล้มบ้าง เพื่อเรียนรู้ที่จะลุก คือการเข้าใจว่าลูกไม่ใช่สมบัติหรือเครื่องมือสานฝันของใคร แต่ลูกมี "ชีวิตและสิทธิ" เป็นของตน

 

 

L : Let it be สุดท้ายถ้าแน่ใจว่าตัวเราก็ได้ทำหน้าที่อย่างดีที่สุดแล้ว การทำความเข้าใจและ "ปล่อยวาง" กับเรื่องบางเรื่อง ก็มีความสำคัญ เพราะสุดท้ายเด็กคนหนึ่งจะเติบโตเป็นอย่างไรมันไม่ใช่เรื่องของการเลี้ยงดูของเราเพียงเท่านั้น ชีวิตมีสิ่งแวดล้อมอะไรอีกหลายอย่างที่ต่างก็มีผลต่อการเติบโต หลายครั้งพ่อแม่จึงต้องมีความเข้าใจว่าจริงๆแล้ว เราต่างคนต่างมีวิถีชีวิตเป็นของตน การเรียนรู้ในชีวิตลูกหลายครั้งไม่ได้เกิดจากการควบคุมคอยกำกับของพ่อแม่ แต่เกิดจากการเรียนรู้จากการตัดสินใจและเรียนรู้จากผลที่ตามมา

 

 

..."ลูกควรมีชีวิตเป็นของลูก การเลือกทางถูกหรือผิดชีวิตควรเรียนรู้ด้วยตัวเอง น่าจะดีที่เราจะเป็นพ่อแม่ที่คอยประคับประคอง ไม่คอยเหยียบย่ำซ้ำเติม เพราะสุดท้าย... ชีวิตก็ไม่เคยมีอะไรที่เป็นของเราอย่างจริงแท้ แม้แต่ 'ตัวเราเอง'"

 

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง