273
แค่เพียงพริบตาเดียว เด็ก ๆ โตเร็วกว่าที่คิด

แค่เพียงพริบตาเดียว เด็ก ๆ โตเร็วกว่าที่คิด

โพสต์เมื่อวันที่ : September 28, 2022

 

จากทารกน้อยที่ตัวเล็ก หัวกลมกิ๊ก มาวันนี้กลายเป็นเด็กน้อยแขนขายาว ผมยาวขึ้นรุงรังเต็มหัวเสียแล้ว
จากเด็กน้อยที่ร้องไห้โยเยกอดเราไว้ไม่ยอมปล่อยมือ มาวันนี้เขาเดินเข้ารั้วโรงเรียนด้วยตัวเองอย่างร่าเริงเสียแล้ว
จากเด็กน้อยที่ต้องการแม่ตลอดเวลา วันนี้เขาเดินไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว มีบางเวลาที่จะหันกลับมาหาเราบ้างในยามคิดถึง แม้จะเหนื่อยยากที่ต้องเลี้ยงเด็กน้อยคนนี้ แต่ในหยาดเหงื่อและคราบน้ำตาในวันนั้น กลับเป็นน้ำหล่อเลี้ยงจิตใจเราในวันนี้
จากเด็กน้อยที่ร้องไห้อยากได้ของเล่นในวันนั้น วันนี้เขากลายเป็นพ่อที่กำลังอุ้มทารกน้อยอย่างทะนุถนอมในวงแขนของเขาเสียแล้วแค่เพียงพริบตาเดียวลูกก็โตขนาดนี้แล้ว เด็ก ๆ โตไวกว่าที่เราคิดนัก ทุก ๆ วันลูกเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ

 

 

ทันทีที่พวกเขาก้าวขึ้นบันไดพัฒนาการชีวิตขั้นที่ 1 ลูกได้เรียนว่าตนเองเป็นที่รักของพ่อแม่ เมื่อพ่อแม่สามารถเป็นที่พึ่งพิงให้กับเขาในยาม ที่เขายังช่วยเหลือตัวเองไม่ได้

 

  • ▶︎ บันไดขั้นที่ 2 ลูกได้เรียนรู้ว่า ตัวเขามีอยู่จริง พ่อแม่มีอยู่จริง พร้อมก้าวเท้าออกไปอย่างมั่นใจ เมื่อหัน หลังกลับมายังเห็นพ่อแม่เฝ้าดูอยู่เสมอ

 

  • ▶︎ บันไดขั้นที่ 3 ลูกได้เรียนรู้ว่า ตัวเขาสามารถทำสิ่งใดได้บ้าง และแม้ว่าจะทำผิดพลาดก็ไม่เป็นไร เพราะทุกคนทำผิดพลาดได้

 

  • ▶︎ บันไดขั้นที่ 4 ลูกได้เรียนรู้ว่า ถ้าอยากได้สิ่งใด เขาต้องพยายามด้วยตนเอง หากยังไม่สำเร็จในวันนี้ ก็ ไม่เป็นไร เพราะเขาสามารถพัฒนาตนเองต่อไปได้ ทันทีที่สิ้นสุดบันไดขั้นที่ 4 ลูกก็ไม่ใช่เด็กน้อยอีกต่อไป เขาก้าวเข้าสู่วัยรุ่นที่เชื่อมต่อไปสู่ วัยผู้ใหญ่ในเวลาเพียงไม่นาน

 

 

“ความคาดหวังของพ่อแม่ที่โตขึ้น ๆ” เมื่อหันกลับมามองในมุมของพ่อแม่

ในช่วงเวลาเพียง 6 ปีแรกในชีวิต ความคาดหวังของพ่อแม่ค่อย ๆ โตขึ้นตามไปอย่างรวดเร็วเช่นกัน จากแค่เพียงขอแค่ “ลองทำ" กลายเป็นต้อง “ทำได้” และเขยิบไปสู่ “ต้องทำได้ดี” นานวันพ่อแม่ได้เห็นลูกคนอื่น พ่อแม่บางท่านอดไม่ได้ที่จะเปรียบเทียบลูกกับคนอื่น ทำให้บางทีความคาดหวังในตัวลูกขยายใหญ่เกินตัวเขาไปอีก พอลูกทำไม่ได้เท่าคนอื่น พ่อแม่กลับผิดหวังในตัวเขา เด็กทุกคนมีสิ่งที่เขาทำได้ดีและไม่ดี ซึ่งบางทีสิ่งที่เขาทำได้ดีตรงกับใจพ่อแม่ แต่บางครั้งสิ่งที่เขาได้ดีกลับไม่ตรงใจเรา

 

พ่อแม่บางคนเลือกที่จะยอมรับและสนับสนุนสิ่งนั้น แต่พ่อแม่บางคนเลือกที่จะมองข้ามและพยายามแก้ไขสิ่งที่ลูกทำได้ไม่ดี เด็กทุกคนเกิดมามีความแตกต่างกัน และถึงแม้ว่าเขาจะเป็นลูกของเรา เขาไม่ใช่คน ๆ เดียวกันกับเรา ข้อเท็จจริงนี้ คือ สิ่งที่พ่อแม่ควรตระหนักอยู่เสมอ

 

 

พ่อแม่ไม่ควรคาดหวังให้เขาเป็นในสิ่งที่เขาไม่ใช่ เป็นคนที่ทำตามความฝันของพ่อแม่ให้สำเร็จ เป็นคนที่ทำให้พ่อแม่ภาคภูมิใจ สุดท้าย เขากลายเป็นคนที่พ่อแม่หวังไว้ แต่เขากลับไม่สามารถเป็นตัวเขาเองได้

 

ความเชื่อมั่นที่พ่อแม่มีให้กับลูก คือ พรที่วิเศษที่สุดที่ลูกทุกคนต้องการ ซึ่ง "ความเชื่อมั่น" ไม่เท่ากับ "ความคาดหวัง" เพราะ "ความเชื่อมั่น" คือ การยอมรับในตัวลูกในแบบที่เขาเป็น และเชื่อว่าเขาสามารถ ทำในสิ่งที่เขาตั้งใจได้ ในขณะที่ "ความคาดหวัง" คือ ความต้องการของเราที่ถูกนำไปใส่ในตัวของลูก บางครั้งความคาดหวังมีปริมาณมากกว่าขนาดของตัวลูกที่จะรองรับได้เสียอีก

 

นอกจากนี้ความรักและความหวังดีของพ่อแม่ ที่ปราศจากการยอมรับและรับฟังเสียง ของลูก อาจจะเป็นความคาดหวังที่กลายเป็นความกดดันมหาศาล การใช้ชีวิตเป็นความภาคภูมิใจของคนอื่นมันเหนื่อยนัก ยิ่งเป็นความภาคภูมิใจของคนที่เรารักนั้นเหนื่อยยิ่งกว่า เพราะ คงไม่มีลูกคนไหนที่อยากทำให้พ่อแม่ผิดหวังและเลิกรักเขา สำหรับลูกมันเจ็บปวดมากที่เขาต้องเลือกระหว่าง "ความฝัน ความเชื่อ และตัวตนที่เขา เป็น" กับ "พ่อแม่ที่เขารัก"

 

สุดท้ายเด็ก ๆ โตไวกว่าที่เราคิดนัก แค่เพียงพริบตาเดียว ลูกก็โตขนาดนี้แล้ว อย่าลืมใช้เวลากับลูก เพื่อสร้างความทรงจำดี ๆ กับเขาในวันที่ลูกต้องการเรามากที่สุด

 

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง