วิธีรับมือลูกไม่ยอมนอน
เหตุผลที่เด็ก ๆ ไม่อยากเข้านอนนั้น มี 4 ประเด็น
การนอน คือ ช่วงเวลาที่ร่างกายจะได้พักผ่อน สร้างและซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของทั้งร่างกาย สิ่งมีชีวิตทุกชนิดต้องการการพักผ่อน โดยเฉพาะเด็กน้อยที่ทั้งร่างกายและสมองยังต้องเจริญเติบโต พบว่าในปัจจุบันนี้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่มักพักผ่อนไม่เพียงพอ
เนื่องจากในแต่ละวันนั้นมีเรื่องราวและกิจกรรมให้ได้ทำมากมาย ทั้งการเรียน การเล่น การออกกำลังกาย การทำกิจวัตรต่าง ๆ การบ้าน รวมถึง ‘หน้าจอ’ ที่ดึงเวลาในแต่ละวันของเด็กไป หลายครั้งหน้าจอก็ทำให้เด็กนอนดึกขึ้นโดยเฉพาะเด็กวัยรุ่น
ตามมาตรฐาน ทางการแพทย์แนะนำให้เด็กได้รับการพักผ่อนที่เพียงพอในระยะเวลาที่แตกต่างกันตามอายุ โดยคำแนะนำในระดับสากลกล่าวว่า
จำนวนชั่วโมงการนอนที่กล่าวถึงนี้รวมถึงระยะเวลาในการนอนกลางวันด้วยแล้ว โดยเด็กแต่ละคนอาจมีรูปแบบของการนอนกลางวันที่แตกต่างกันได้ เด็กบางคนก็อาจเลิกนอนกลางวันเร็วกว่าอีกคนหนึ่งก็ได้
เมื่อพักผ่อนไม่เพียงพอ เด็ก ๆ จะรู้สึกไม่สดชื่น หงุดหงิดง่าย และอาจมีพฤติกรรมที่ไม่น่ารักในสายตาของผู้ปกครองได้ง่ายขึ้น ส่งผลให้เกิดปัญหาในการเลี้ยงดูและปะทะกับคุณพ่อคุณแม่ได้มากขึ้น ในขณะเดียวกัน สำหรับเด็กวัยเรียน การพักผ่อนไม่เพียงพอมักส่งผลให้ประสิทธิภาพของการเรียนลดลง ทั้งส่งผลต่อสมาธิและการจดจ่อใส่ใจต่อกิจกรรมต่าง ๆ อีกด้วย
สำหรับประเด็นเรื่องการเจริญเติบโต แม้ว่าในระยะยาวยังไม่มีข้อสรุปว่าการพักผ่อนไม่เพียงพอส่งผลกระทบต่อความสูงสุดท้าย (Final height) อย่างมีนัยสำคัญ แต่การพักผ่อนก็ยังเป็นเรื่องที่จำเป็นต่อสุขภาพของร่างกายอย่างแน่นอน
คุณพ่อคุณแม่ควรส่งเสริมและปลูกฝังการมีสุขลักษณะการนอนที่ดีให้กับลูกตั้งแต่เล็ก เพื่อให้เด็ก ๆ พักผ่อนอย่างเพียงพอ เตรียมร่างกายและสมองให้พร้อมที่จะตื่นมาเรียนรู้ในวันรุ่งขึ้นอย่างเต็มที่ โดยเริ่มต้นจากการมีกิจวัตรที่สม่ำเสมอ มีกิจวัตรก่อนนอนที่สม่ำเสมอคาดเดาได้ เข้านอน-ตื่นนอนเป็นเวลา ปิดหน้าจอก่อนเข้านอนอย่างน้อย 1 ชั่วโมง หากทำได้ ไม่ควรให้มีหน้าจอทุกชนิดในห้องนอนเลย
หลีกเลี่ยงการดื่มชา กาแฟ น้ำอัดลม (ที่มีสารคาเฟอิน) และเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของคาเฟอินตั้งแต่ช่วงบ่ายแก่ ๆ และก่อนนอน และห้องนอนควรมืด-เงียบเพื่อให้เอื้อต่อการนอนที่มีคุณภาพ แต่ละบ้านควรมีความชัดเจนกับเวลานอน มิฉะนั้นลูกก็จะต่อรองแล้วนอนดึกขึ้นเรื่อย ๆ จนทำให้สุขลักษณะการนอนเสียไปในที่สุดนั่นเอง