อย่าให้ความรักทำร้ายลูก
บางครั้งสิ่งที่พ่อแม่ทำให้กับลูกด้วยความเข้าใจผิดว่า “นั่นคือความรักที่มอบให้ลูก”
พญ.พรนิภา ศรีประเสริฐ หรือ หมอแอม กุมารแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญจิตวิทยาสมอง พัฒนาการ และการเรียนรู้ เจ้าของเพจ "เรื่องเด็กๆ by หมอแอม" ให้ความเห็นประเด็นความรุนแรงที่เกิดขึ้นจากคนในครอบครัวว่า ปัจจุบันมีให้เห็นบ่อยขึ้น และบางเหตุการณ์พบมี เด็กเล็ก ๆ ที่อยู่ในช่วงวัยเตาะแตะ อยู่ในเหตุการณ์นั้น ๆ ด้วย ซึ่งผลกระทบของความรุนแรง อาจไม่สร้างเฉพาะบาดแผลที่เกิดขึ้นทางกาย แต่กับบาดแผลทางใจเป็นสิ่งที่ละเลยไม่ได้ และมีแนวโน้ม อาจส่งผลระยะยาวต่อเด็กในอนาคต
พญ.พรนิภา ยังให้คำแนะนำวิธีการสังเกตพฤติกรรมทางอารมณ์ที่เปลี่ยนแปลงของเด็ก ที่เผชิญความรุนแรงในครอบครัว เช่น เห็นแม่ถูกทำร้ายหรือเห็นภาพที่กระทบต่อจิตใจ โดยเฉพาะในด็กเล็กอาจสื่อสารไม่ได้ แต่ผู้เชี่ยวชาญจะใช้วิธีสังเกตความเครียด ดังนี้
การสังเกตพฤติกรรมเด็กข้างต้นอาจเป็นเพียงบางส่วนเท่านั้น พญ.พรนิภา กล่าวว่า หากจะให้ดีแนะนำให้พาเด็กไปพบจิตแพทย์ เพื่อประเมินผลกระทบและรับคำปรึกษา หาวิธีการแก้ปัญหาทางออกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ให้ผู้เชี่ยวชาญแนะนำทั้งวิธีการพูดกับเด็ก หรือ การดูแลต่อจากนี้
ผลกระทบพัฒนาการของเด็กในระยะสั้น อาจมีการก้าวร้าว มีปัญหาในการเรียนรู้ หรืออาจจะมีพฤติกรรมกลัวคนแปลกหน้า แปลกแยกจากสังคม ไม่คุ้นเคยกับคนที่ไม่เคยเลี้ยง ซึ่งจะมีปัญหาเรื่องพัฒนาการตามมาได้ ซึ่งคนในครอบครัว จะเยียวยาสิ่งที่เกิดขึ้นได้อย่างไรนั้น ให้สังเกตสัญญาณเตือน ดังที่ได้กล่าวมาแล้วหากเข้าเกณฑ์แสดงว่า เด็กเริ่มมีปัญหาทางจิตใจและควรพาไปพบผู้เชียวชาญเพื่อประเมิน
สุดท้ายอยากให้มีการผลักดันกฎหมายความรุนแรงในครอบครัว และส่งเสริมสร้างความเข้าใจ สร้างความเปลี่ยนแปลงในสังคม ว่าเรื่องความรุนแรงในครอบครัวไม่ใช้เรื่องปกติ หรือ ไม่ใช่เรื่องผัวเมียแล้วไม่ควรไปยุ่งเกี่ยว และไม่ใช่ผลกระทบแค่คู่ชีวิต เพราะมันอาจกระทบไปถึงอนาคตของเด็กคนหนึ่งด้วย